พระนางมัทรีเต็มใจและอนุโมทนาในการให้ลูกเป็นทาน

 
JANYAPINPARD
วันที่  4 ส.ค. 2552
หมายเลข  13089
อ่าน  8,239

[เล่มที่ 64] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๔ ภาค ๓ -หน้าที่ 758

แต่นั้น เมื่อพระนางมัทรีทูลว่า ข้าแต่สมมติเทพพระองค์ประทานลูกทั้งสองแก่พราหมณ์แล้ว ไม่รับสั่งให้หม่อมฉันผู้คร่ำครวญ เที่ยวอยู่ตลอดราตรีทราบความเพราะเหตุไร พระมหาสัตว์จึงตรัสว่า แน่ะมัทรี ฉันไม่ปรารถนาจะบอกเธอแต่แรก ให้เป็นทุกข์ว่า พราหมณ์แก่เป็นยาจกเข็ญใจมาสู่ อาศรม บุตรบุตรีฉันให้แก่พราหมณ์นั้นแล้ว แน่ะ มัทรีเธออย่ากลัวเลย จงยินดีเถิด เธอจงเห็นแก่ฉัน อย่าเห็นแก่บุตรบุตรี อย่าคร่ำครวญนักเลย เราทั้งสอง ยังมีชีวิตอยู่ ไม่มีโรคก็จักได้บุตรบุตรี และสัตว์ของ เลี้ยง ธัญญาหารทั้งทรัพย์อย่างอื่นในเรือน สัตบุรุษ เห็นยาจกมาบริจาคทาน ดูก่อนมัทรี เธอจงอนุโมทนา ปิยบุตรทาน อันเป็นอุดมทานของฉัน

พระนางมัทรีทูลว่า ข้าแต่สมมติเทพ หม่อมฉันขออนุโมทนาปิยบุตรทานอันอุดมของพระองค์ พระองค์ทรงบริจาค ทานแล้วจงยังพระหฤทัยให้เลื่อมใส ขอจงทรงบำเพ็ญ ทานให้ยิ่งๆ ขึ้นไปเถิด ข้าแต่พระชนาธิปราช ในเมื่อ ชนทั้งหลายมีความตระหนี่ พระองค์ผู้ยังแคว้นของ ชาวสีพีให้เจริญ ได้ทรงบริจาคบุตรทานแก่พราหมณ์

เทพนิกายทั้งสองคือนารทะและปัพพตะเหล่านั้น ย่อมอนุโมทนาแก่พระเวสสันดรนั้น พระอินทร์ พระพรหม พระปชาบดี พระโสม พระยม และพระเวสวัณมหาราช ทั้งเทพเจ้าชาวดาวดึงส์ทั้งหมดพร้อมด้วย พระอินทร์ต่างอนุโมทนาทานของพระองค์ พระนาง มัทรีราชบุตรีผู้ทรงโฉม ผู้มียศ ทรงอนุโมทนาปิยบุตรทานอันอุดมแห่งพระเวสสันดร ด้วยประการฉะนี้

พระเวสสันดรโพธิสัตว์ทรงกำหนดราคาพระราชกุมารกุมารีอย่างนี้แล้ว ทรงปลอบโยนแล้วเสด็จไปสู่อาศรม จับพระเต้าน้ำ เรียกชูชกมาตรัสว่า ดูก่อนพราหมณ์ผู้เจริญ จงมานี่ แล้วทรงหลั่งน้ำลงในมือชูชก ทำให้เนื่องด้วยพระสัพพัญญุตญาณ ตรัสว่า ดูก่อนพราหมณ์ผู้เจริญ พระสัพพัญญุตญาณย่อมเป็นที่รักยิ่งกว่าบุตรและบุตรีผู้เป็นที่รักกว่าร้อยเท่าพันเท่าแสนเท่า เมื่อจะทรงยังปฐพีให้บันลือลั่นได้พระราชทานปิยบุตรทานแก่พราหมณ์ชูชก


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
suwit02
วันที่ 5 ส.ค. 2552

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 6 ก.พ. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ