ธรรมชาติเป็นต้นกำเนิดของวิชาทุกแขนงหรือไม่

 
สุภิญญา
วันที่  9 มิ.ย. 2549
หมายเลข  1311
อ่าน  940
เคยนั่งพิจารณาตำราที่มี ลองไล่หาต้นกำเนิดของความรู้ที่นำมาเขียนกัน ว่าครูของครูของครูคือใคร ไล่อย่างไรก็ไม่มีสิ้นสุด เป็นการสืบทอดความรู้ต่อๆ กันมา แต่พอมาไล่ถึงผู้ริเริ่มเขียนคนแรก ก็มานั่งคิดว่าบุคคลเหล่านั้นเรียนรู้มาจากไหน ใครเป็นครูของบุคคลสำคัญเหล่านั้น ใช่ธรรมชาติที่มีอยู่หรือเปล่าที่เป็นต้นกำเนิดของความรู้ทั้งมวล แล้วหลังจากนั้นก็เป็นเรื่องของสติปัญญาของบุคคลสำคัญเหล่านั้น ที่จะถ่ายทอดความรู้จากธรรมชาติมาเป็นลายลักษณ์อักษรหรือถ่ายทอดมาในรูปลักษณ์ต่างๆ ไม่รู้ว่าที่คิดแบบนี้เป็นความคิดที่ถูกต้องหรือเปล่า ขอคำแนะนำด้วยค่ะ

  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 11 มิ.ย. 2549

ธรรมมีหลายประเภท บางอย่างเกิดเพราะกรรม บางอย่างเกิดเพราะจิต บางอย่างเกิดเพราะอุตุบางอย่างเกิดเพราะอาหาร และเกิดเพราะปัจจัยต่างๆ มีเหตุปัจจัย อารามณปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย กรรมปัจจัย เป็นต้น ฉะนั้น ตามหลักคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงไว้ทั้งหมดแล้ว ควรที่เราจะศึกษาจากพระธรรมคำสอนย่อมเป็นสิ่งที่ถูกต้องกว่า ไม่ควรคิดเอง และปัญญาย่อมเกิดเพราะมีเหตุ คือการฟังการสะสมอบรม

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
shumporn.t
วันที่ 12 มิ.ย. 2549

ลักษณะของจิต คือ สภาพคิด คิดดีเป็นกุศลจิต คิดที่ไม่เกิดประโยชน์คืออกุศลจิต ไม่ว่าตำรำไหนๆ ในโลก แม้แต่อักษรโบราณในถ้ำ ในสมัยที่ยังไม่มีตำรา ก็ต้องเกิดจากจิตที่คิด พระสัมมาสัมพุทธเจ้าคือบรมครู คือเป็นครูของพรหม เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย พระองค์สอนให้เรารู้ความจริงแท้คือ สัจธรรม ( จิต เจตสิก รูป นิพพาน) มีอะไรบ้างในโลกนี้ที่ไม่ใช่จิต เจตสิก รูป ศึกษาในเรื่อง จิต เจตสิก รูป จะทำให้เข้าใจความเป็นจริง ที่กำลังปรากฏเข้าใจความจริงที่กำลังปรากฏ ทำให้เข้าใจตัวเราเองมากขึ้น

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ