การประจักษ์การเกิดดับของสภาพธรรมทางมโนทวาร?
การประจักษ์ความเกิดความดับของสภาพธรรม ต้องประจักษ์ด้วยปัญญาขั้นวิปัสสนาญาณขั้นสัมมสนญาณขึ้นไป (ทางมโนทวาร) สำหรับความรู้ทั่วๆ ไปที่เห็นความเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่างๆ ไม่ใช่การประจักษ์ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรมจริงๆ เพราะเป็นการคิดนึกถึงเรื่องราวต่างๆ เท่านั้น และไม่ใช่ปัญญาขั้นวิปัสสนาญาณ จึงไม่ประจักษ์ลักษณะ และความเกิดความดับที่แท้จริงของนามรูป
ลักษณะที่สังเกต เป็นกุศลจิตหรืออกุศลจิตก็ได้ สภาพธรรมเกิดดับเร็วมาก ถ้าไม่ชินกับสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ อาจเข้าใจผิดได้ง่าย ความต่างกันของกุศลและอกุศลจิตเป็นเรื่องละเอียดมาก ลักษณะของโลภะเป็นลักษณะจดจ้องต้องการรู้ให้มากขึ้น เป็นตัวตนไม่คลาย หนัก ลักษณะของปัญญาเป็นความเข้าใจถูก รู้แล้วละ
ตามนัยพระอภิธรรมความตระหนี่ (มัจฉริยะ) เกิดร่วมกับจิตประเภทโทสะเท่านั้น
ขอขอบคุณมากครับ เข้าใจผิดมานานมากครับ ช่วยอธิบายละเอียดหน่อยได้ไหมครับ
ตามนัยพระอภิธรรมความตระหนี่ (มัจฉริยะ) เกิดร่วมกับจิตประเภทโทสะเท่านั้น คือขณะที่หวงแหนทรัพย์และที่อยู่จิตประกอบด้วยโทมนัสเวทนาคือไม่สบายใจ และเราจะตระหนี่กับคนที่เราไม่รัก ถ้ากับคนที่เรารักแล้วเท่าไหร่ก็ให้
เป็นการคิดพิจารณาธรรมะระดับหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ปัญญาที่ประจักษ์ลักษณะที่เกิดขึ้นและดับไปจริงๆ คือที่ท่านคิดเป็นเรื่องราว แต่การประจักษ์ความเกิดดับของนามรูป รวดเร็วกว่านี้มาก ปัญญาขั้นฟังขั้นพิจารณาย่อมเป็นอุปการะแก่วิปัสสนาญาณ