สิ่งที่ควรรู้ยิ่ง คือสิ่งที่ปรากฏแล้ว

 
เมตตา
วันที่  10 ส.ค. 2552
หมายเลข  13139
อ่าน  1,310

ผู้ศึกษาพระธรรมหลายท่านมักมีความต้องการไปรู้สิ่งที่ยังไม่ปรากฏ สิ่งที่กำลังปรากฏขณะนี้

ยังไม่รู้เลย แล้วจะไปรู้สิ่งที่ยังไม่ปรากฏซึ่งก็ไม่มีทางที่จะรู้ได้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ควรรู้ยิ่ง คือ

สิ่งที่ปรากฏแล้วจึงรู้ได้

เชิญสหายธรรมร่วมสนทนาค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 10 ส.ค. 2552

เป็นหัวข้อที่น่าสนใจ ขออนุโมทนา

ขอเชิญทุกท่านร่วมสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
จำแนกไว้ดีจ๊ะ
วันที่ 10 ส.ค. 2552

เพื่อประโยชน์ อะไรรึ? ตรงนี้ต้องพูดกันก่อน เพราะเป็นเส้นผมบังภูเขา เราท่าน

ก็อยากเห็นธรรมแต่ไม่รู้ทางตรง หลงไปทางอ้อม หลงผิด ติดข้องหลายแสนกัปป์กัลป์

พุทธันดร

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เมตตา
วันที่ 10 ส.ค. 2552

ชี้ให้เห็นประโยชน์ว่า ลักษณะสภาพธรรมที่กำลังปรากฏอยู่ขณะนี้เป็นสิ่งสำคัญ

ที่ควรรู้ยิ่ง ไม่ว่าทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และทางใจ เพราะว่า

สิ่งที่กำลังปรากฏในชีวิตประจำวันเกิดขึ้น และดับไปอยู่ตลอดเวลา สามารถที่จะ

อบรมเจริญปัญญาให้รู้ได้ ถ้าสิ่งที่ปรากฏยังไม่รู้จะไปรู้สิ่งที่ไม่ปรากฏได้อย่างไร?

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
suwit02
วันที่ 10 ส.ค. 2552

อ้างอิงความเห็นพี่เมตตา

สิ่งที่ควรรู้ยิ่ง คือสิ่งที่ปรากฏแล้ว

ถ้าสิ่งที่ปรากฏยังไม่รู้จะไปรู้สิ่งที่ไม่ปรากฏได้อย่างไร?

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
จำแนกไว้ดีจ๊ะ
วันที่ 10 ส.ค. 2552

อ่านความคิดเห็นที่ ๓ ประจักษ์สิ่งที่กำลังปรากฏ เกิด-ดับ = ปัญญา?

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
เมตตา
วันที่ 10 ส.ค. 2552

เรียนคุณจำแนกไว้ดีจ๊ะ

การประจักษ์การเกิดดับของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏนั้น เป็นปัญญา

ขั้นวิปัสสนาญาณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
จำแนกไว้ดีจ๊ะ
วันที่ 11 ส.ค. 2552

เจคสิก คือ สภาพธรรมที่เกิดร่วมกับจิตที่ระลึกได้ในสิ่งที่ปรากฏตามความเป็นจริง คือ สติ สัมปชัญญะ ปัญญา ที่ประจักษ์ลักษณะไตรลักษณ์ ความเกิด-ดับ ทำให้ละคลายกิเลส ละคลายความยึดมั่นถือมั่นความเป็นเรา สิ่งที่ดับไปแล้ว สิ่งที่ยังมาไม่ถึง จะมีลักษณะให้เห็นจริงได้อย่างไร

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
จำแนกไว้ดีจ๊ะ
วันที่ 11 ส.ค. 2552

ครับ ไม่ได้หยุดรู้แค่สิ่งที่กำลังปรากฏ

แต่เกิดปัญญา วิปัสสนาญาณอันคมกล้า

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
เมตตา
วันที่ 12 ส.ค. 2552

นี่ก็เป็นเรื่องราวยาวๆ แต่สิ่งสำคัญ...แค่สิ่งที่กำลังปรากฏก็ยังไม่รู้ รู้ได้ยาก

ควรอบรมเจริญปัญญารู้สิ่งที่กำลังปรากฏ เป็นสิ่งที่ควรรู้ยิ่ง

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
เมตตา
วันที่ 13 ส.ค. 2552

สิ่งที่ปรากฏในกายก็ไม่พ้นไปจากเย็น ร้อน อ่อน แข็ง ตึง ไหวเท่านั้นเองค่ะ

การอบรมความเห็นถูกเข้าใจถูกในลักษณะสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามปกติ เป็นปัจจัย

ให้สติระลึกตรงลักษณะที่เย็น ร้อน อ่อน แข็ง ตึง ไหวได้ค่ะ แต่ไม่ใช่ตัวตนที่จะไป

ระลึกรู้ค่ะ เพราะดิฉันก็เคยไปปฏิบัติ เอกัคคตาเจตสิกเกิดกับจิตทุกดวง ขณะที่ไม่เป็นไป

ในทาน ศีล ภาวนา ขณะนั้นเป็นอกุศลจิต ในขณะที่ปฏิบัติผิด จิตก็ตั้งมั่นผิด ขณะที่

จิตตั้งมั่นคงอยู่ก็เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในกายก็เป็นตัวตนนั้นเองที่ไปดู ไปรู้ สิ่งเหล่านั้น เมื่อ

ก่อนก็เข้าใจผิด คิดว่าเรานี่ปฏิบัติถึงไหนแล้ว แต่นั่นไม่ใช่ปัญญาในพระพุทธศาสนา

เลย เป็นตัวตนที่ไปรู้ไปจดจ้องอยู่ตลอดเวลา หวังผลของการปฏิบัติอยู่ เมื่อเห็นผิด

คิดว่าเห็นสิ่งที่ปรากฏในกายเกิดโสมนัสดีใจก็เป็นโลภะ มีแต่อกุศลจิตเกิดเกือบตลอด

เวลา..นี่ไม่ใช่ปัญญาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 13 ส.ค. 2552

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ