ปัญญาไม่สามารถเจริญขึ้น ภายในระยะเวลาอันสั้น
พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงตรัสรู้และทรงแสดงนั้น มีความละเอียดลึกซึ้งยากที่จะตรัสรู้ตามได้ เป็นธรรมอันบัณฑิตเท่านั้นที่จะรู้ได้ ธรรมจึงไม่ง่าย เพราะกว่าที่พระผู้มีพระภาคเจ้าจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้านั้น พระองค์ต้องใช้เวลาอันยาวนานในการบำเพ็ญพระบารมี (สี่อสงไขยแสนกัปป์) และตลอดระยะเวลา ๔๕ พรรษา ในการประกาศพระศาสนาของพระองค์นั้น ก็เพื่ออนุเคราะห์สัตว์โลกให้หลุดพ้นจากทุกข์ หมดจดจากกิเลสโดยประการทั้งปวง จากการแสดงพระธรรมของพระองค์ในแต่ละครั้งๆ นั้น มีผู้ที่ได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรม บรรลุถึงความเป็นพระอริยบุคคลขั้นต่างๆ เป็นจำนวนมากมาย
พระอริยบุคคลทั้งหลายเหล่านั้น กว่าจะได้บรรลุ ท่านก็ได้สะสมการสดับตรับฟังพระธรรม สะสมปัญญามาเป็นเวลาอันยาวนานด้วยกันทั้งนั้น สำหรับผู้ที่มีโอกาสได้ฟังได้ศึกษาพระธรรมในยุคนี้ ก็ไม่ควรที่จะท้อแท้ ยิ่งยากยิ่งจะต้องศึกษา เพราะปัญญาไม่สามารถจะเจริญขึ้นได้ภายในระยะเวลาอันสั้นๆ จึงค่อยๆ ฟังค่อยๆ ศึกษาไปตามลำดับ ไม่ใจร้อน วันนี้ พรุ่งนี้ หรือ ชาตินี้ ยังไม่พอต้องสะสมความเข้าใจต่อไปอีกเป็นเวลาอันยาวนาน (จิรกาลภาวนา) ครับ
ผู้ที่เริ่มศึกษา หรือ ศึกษามาไม่นาน ก็อย่าเป็นแบบดิฉันนะคะ ปัญญาไม่เกิด แต่จะไปเร่งให้ปัญญาเกิด ปรากฎว่า โลภะ กับ โทสะ เกิดแทน น่าอายเหลือเกิน
ขออนุโมทนาค่ะ
จริงครับ เห็นด้วยอย่างมากๆ ตอนแรกที่ฟังท่านอาจารย์สุจินต์เทศน์ก็รู้สึกว่ายาก แต่ก็โชคดีที่ฟังและเคยอ่านทั้งท่านอาจารย์สุจินต์และท่านอื่นๆ แต่หนังสือพระอภิธรรมของท่านอาจารย์สุจินต์ไม่สามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านหนังสือทั่วไปเหมือนท่านอาจารย์ท่านอื่น เพราะฉะนั้นอยากจะแนะนำคนที่เริ่มฟังใหม่ๆ ให้มีสมุดบันทึกและปากกาติดตัวไว้ด้วย แล้วควรกลับมาอ่านทวนด้วยนะ ถ้าฟังแค่ผ่านๆ แล้วไม่ทำความเข้าใจ แล้วยิ่งไม่จดอีกด้วย โอ้...แทบจะไม่รู้เรื่องเลย อยากจะแนะนำให้ท่านผู้ศึกษาใหม่ควรไปที่มูลนิธิของท่านอาจารย์ แล้วหาหนังสือมาอ่าน แล้วก็ควรหาสหายธรรมที่จะสามารถอธิบายธรรมะให้คุณเข้าใจได้สักคนหนึ่ง แล้วปัญญาด้านธรรมะของท่านก็จะเติบโตอย่างเข้าใจอย่างเป็นลำดับ แต่ก็อย่าไปหวังอะไรว่าจะบรรลุธรรมนะ เพราะธรรมะไม่ใช่การคาดหวัง แต่ธรรมะเป็นอนัตตา ไม่มีตัวตน คน สัตว์ สิ่งของ ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น ธรรมะคือสิ่งที่มีจริง และต้องเริ่มจากความเข้าใจจริงๆ ก่อนสิ่งอื่น เข้าใจอย่างไร ก็ต้องฟังๆ ๆ ๆ ๆ เท่านั้นครับผม ฟังจนปัญญาประจักษ์แจ้งรู้ทั่ว รู้รอบ ละความเห็นผิด เป็นสัมมาทิฏฐิ จะเป็นไปเองโดยอัตโนมัติ ฉะนั้นต้องศึกษา และเว้นจากการฟังมิได้เลย
พระธรรมเป็นของยาก ละเอียด และลึกซึ้งมาก มิเช่นนั้นพระพุทธองค์คงไม่ต้องใช้เวลาอันยาวนานในการบำเพ็ญพระบารมีถึงสี่อสงไขยแสนกัปป์ เพราะฉะนั้นไม่ควรรีบร้อนที่จะบรรลุเร็วๆ หรือจะให้สติปัฎฐานเกิดเร็วๆ บางท่านยังไม่เข้าใจถึงลักษณสภาพธรรมที่กำลังปรากฎที่มีอยู่จริงๆ ไม่ว่าทางตา ทางหู...และทางใจ ว่ารูปธรรม นามธรรมมีลักษณะอย่างไร ก็บอกว่าได้ประจักษ์การเกิดดับแล้ว ไม่ควรประมาทว่าพระธรรมง่าย สามารถบรรลุเร็ว ควรศึกษาอย่างละเอียดและรอบคอบ ไม่เช่นนั้นก็จะเดินทางผิดต้องวนเวียนอยู่ในวัฎฎะต่อไป
การฟังพระธรรมควรตั้งใจฟังและพิจารณาให้ตรงให้ถูกในสิ่งที่กำลังฟัง ไม่ควรจดหรือเขียนขณะฟังพระธรรม เพราะว่าขณะที่จดนั้นก็ไม่ได้ฟัง หรือไตร่ตรองพระธรรมค่ะ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอบพระคุณทุกๆ ท่านที่แสดงความคิดเห็นครับและเตือนสติครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ธรรมะเกิดแล้ว ก่อนฟังก็ไม่มีปัญญา ยิ่งถ้าไม่มาฟังคำกล่าวก็ไม่รู้ เมื่อไม่ฟังและไม่ไตร่ตรอง ก็ไม่เกิดความเข้าใจเพื่อจะระลึกนามธรรมและเข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริง ที่เกิดอยู่แล้วและอยู่เหนือการบังคับบัญชาได้ ปัญญาเท่านั้นถึงจะเข้าใจและมั่นคงให้เข้าใจว่าไม่มีใคร มีแต่สิ่งที่ปรากฎ ขอกราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ ที่ท่านกล่าวด้วยภาษาของคนไทยที่เข้าใจให้ลึกซึ้งได้ สาธุค่ะ