เพิ่งรู้ตัวว่ายังเป็นทาส
ปฏิบัติธรรม
อาทิตย์ ๑๙ ต.ค. ๕๑
อรวรรณ จะเรียนให้ท่านอาจารย์ขยายความเรื่อง เครื่องล่อให้ติดข้องเป็นอามิส มี ๓ อย่าง คือ โลกามิส กิเลสามิส วัฏฏามิส อยากรบกวนท่านอาจารย์ ชีวิตปัจจุบันของพวกเราจะอยู่ด้วยเครื่องล่อให้ติข้องแล้วๆ เล่าๆ ถูกเป็นเหยื่อล่อให้เข้าไปติดกับ
อาจารย์ ถ้าพอใจก็แสดงว่าถูกล่อ มีอะไรคะนอกจากปรากฏให้เห็น แล้วทำไมชอบนักหนา ติดข้องมากมาย เพียงปรากฏให้เห็นเวลาได้ยินก็ไม่มีแล้ว ไม่ปรากฏแล้ว หลับสนิทก็ไม่ปรากฏแล้ว อะไรก็ไม่เหลือเลย แต่เพียงชั่วขณะที่ปรากฏก็เหมือนกับสิ่งที่น่าพอใจจนกระมั่งมีความพอใจในสิ่งนั้น เพราะกิเลสล่อลวง เพราะไม่รู้ความจริงว่า “แค่เห็น” พอใจอะไรถึงปานนั้น แต่ก็เป็นชีวิตจริงๆ ใช่ไหม ห้ามไม่ได้เลยที่จะให้ไม่มีความพอใจสิ่งหนึ่งสิ่งใดมากน้อยตามสิ่งที่สะสมมา บางคนไม่ชอบสิ่งนี้ เพราะไม่ได้สะสมมาที่จะพอใจในสิ่งนี้ แต่เวลาที่มีสิ่งที่สะสมมาที่พอใจในสิ่งนั้นเกิดความพอใจทันที นี่ก็แสดงให้เห็นว่า พอใจในอะไร พอใจในสิ่งที่ปรากฏ ไม่ว่าจะทางตา ทางหูทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ
เพราะฉะนั้น จะพ้นจากความพอใจ ในสิ่งที่ปรากฏให้เห็นให้ได้ยินได้อย่างไร? ต้องเป็นความรู้อย่างเดียวและตามกำลังของความรู้ด้วย พระโสดาบันยังละไม่ได้ คิดดูก็แล้วกันว่าความพอใจที่ติดแน่นในสิ่งที่ปรากฏจะมากมายสักแค่ไหน
ดูกระจกกันทุกวันใช่ไหม พบใคร ตรงไหนชอบ ตรงไหนไม่ชอบ ....ทุกวันก็ปรากฏทุกส่วนตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า
อรวรรณ เครื่องล่อก็คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ซึ่งเป็นสภาพธรรมที่เกิดดับเหตุตามปัจจัย แต่ตัวกิเลสเมื่อไม่รู้ความจริง เพราะอวิชชาซึ่งไม่รู้ความจริงและมีตัวโลภะเข้าไปติดข้องก็เลยทำให้เป็นเหยื่อ เพราะตัวกิเลสตัวนี้ก็มีทางเดียวคือรู้ความจริง โดยมีปัญญาที่รู้ความจริงว่าจริงๆ มันเป็นอย่างนั้น จะไปติดข้องอะไรกับสิ่งที่เพียงเกิดปรากฏ แล้วก็ดับไปอย่างรวดเร็วมากและเกิดขึ้นตามเหตุปัจจัยด้วย แล้วไม่กลับมาอีกด้วย
อาจารย์ ตามหาสิ่งที่ไม่กลับมาอีก พอใจในสิ่งที่ไม่กลับมาอีก ติดข้องในสิ่งที่ไม่กลับมาอีก เพราะจำผิดว่ายังอยู่ ยังมี ยังไม่ได้ดับไป
อรวรรณ อวิชชาความไม่รู้และตัวติดข้องกันเยอะ และสภาพธรรมเองก็รู้ยาก เพราะว่าเกิดดับเร็วมาก มีนิมิตของสภาพธรรมมาลองให้เหมือนกับว่าดอกไม้นี้สวยมาก อย่างเมื่อวานเข้ามาถึงดอกไม้วันนี้สวยสไตล์แปลกนะ วันนี้ต้องเกิดใคร่แน่ อะไรประ-มาณนี้ไม่คิดถึงว่าเพื่อบูชาพระธาตุเลย ไปติดข้องแต่ความสวยงามของดอกไม้อันนี้ ก็จะเห็นได้ว่าถูกเหยื่อล้อเข้าไปเต็มๆ เลยซึ่งก็มีทางเดียวต้องศึกษาธรรมให้เข้าใจ ถ้ารู้จริงๆ ว่าเป็นสภาพธรรมซึ่งเกิดดับอย่างรวดเร็ว หมดแล้วก็หมดเลย ก็จะค่อยๆ ลดคลายไปบ้าง
อาจารย์ เป็นทาสของโลภะ อยากเป็นอิสระไหม มีคนบอกว่า ไม่อยากอิสสระจากโลภะ ตั้งแต่เช้ามานี่โลภะนำไปทั้งนั้นเลยขณะใดที่เป็นกุศลก็เป็นฉันทะ ไม่ใช่โลภะ แต่ก็ยังเป็นมูลให้ชีวิตของแต่ละคน ดำเนินไปเป็นไปตามการสะสมของความพอใจนั้นๆ เมื่อไรเป็นอิสระจริงๆ ลองคิดดูนะคะ ชอบ กับ ไม่ต้องเป็นทาสของความพอใจเลย อิสระจริงๆ อิสระ ไม่มีความติดข้องในสิ่งนั้นเลย เป็นได้เมื่อเป็นพระอนาคามีบุคคล
25511019 - L เพิ่งรู้ตัวว่ายังเป็นทาส
K=word กิเลสามิส โลภะ อวิชชา