สักกัจจสูตร - อาศัยปฏิสันถาร ละอกุศล เจริญกุศล - ๑๗ มิ.ย. ๒๕๔๙
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ
ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ
สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ
••• ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย •••
พระสูตร ที่นำมาสนทนาที่มูลนิธิฯ
วันเสาร์ที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๔๙
เวลา ๐๙:๐๐ - ๑๒:๐๐น.
สักกัจจสูตร
จากพระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้าที่ 247
นำการสนทนาโดย
ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และคณะวิทยากร
ขอเชิญท่านอ่านพระสูตรนี้ได้ในกรอบต่อไปนะครับ ...
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้าที่ 247
สักกัจจสูตร
[๖๗] ครั้งนั้น ท่านพระสารีบุตรหลีกออกเร้นอยู่ในที่ลับ เกิดความปริวิตกแห่งใจอย่างนี้ว่า ภิกษุ สักการะ เคารพ อาศัย อะไรอยู่หนอ จะพึงละอกุศล เจริญกุศล ลำดับนั้น ท่านคิดเห็น ดังนี้ว่าภิกษุ สักการะ เคารพ อาศัยพระศาสดาอยู่แล จะพึงละ อกุศล เจริญกุศล ภิกษุ สักการะ เคารพ อาศัยธรรม ... อาศัย สงฆ์ ... อาศัยสิกขา ... อาศัยสมาธิ ... อาศัยความไม่ประมาท ... อาศัยปฏิสันถารอยู่แล ... จะพึงละอกุศล เจริญกุศล ท่านคิดเห็น อีกว่าธรรมเหล่านี้ข้องเราบริสุทธิ์ผุดผ่อง
ผิฉะนั้น เราพึงไปกราบทูล ธรรมเหล่านี้แต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ธรรมเหล่านี้ของเราจักบริสุทธิ์ ยิ่งขึ้น ด้วยอาการอย่างนี้ เปรียบเหมือนบุคคลได้ทองคำแท่งอันบริสุทธิ์ ผุดผ่องเขาจะพึงคิดเห็นอย่างนี้ว่า ทองคำแท่งของเรานี้ บริสุทธิ์ ผุดผ่อง ผิฉะนั้น เราพึงนำเอาทองคำแท่งนี้ ไปแสดงแก่นายช่างทอง ทองคำแท่งของเรานี้ ไปถึงนายช่างทองเข้าจักบริสุทธิ์ และจักนับว่าบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น ด้วยอาการอย่างนี้ ฉะนั้น.
ลำดับนั้น เป็นเวลาเย็น ท่านพระสารีบุตรออกจากที่เร้น เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอประทานพระวโรกาส ข้าพระองค์หลีก ออกเร้นอยู่ในที่ลับเกิดความปริวิตกแห่งใจอย่างนี้ว่า ภิกษุ สักการะ เคารพ อาศัยอะไรอยู่หนอ จะพึงละอกุศล เจริญกุศล ลำดับนั้น ข้าพระองค์ได้คิดเห็นดังนี้ว่า ภิกษุสักการะ เคารพ อาศัยพระ ศาสดาอยู่แล จะพึงละอกุศล เจริญกุศล สักการะ เคารพ อาศัย ธรรม... อาศัยสงฆ์... อาศัยสิกขา... อาศัยสมาธิ... อาศัยความ ไม่ประมาท... อาศัยปฏิสันถารอยู่แล จะพึงละอกุศล เจริญกุศล
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้คิดเห็นดังนี้อีกว่า ธรรม เหล่านี้ของเราบริสุทธิ์และจักบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น ด้วยอาการอย่างนี้ เปรียบเหมือนบุคคลได้ทองคำแท่งอันบริสุทธิ์ผุดผ่อง เขาจะพึง คิดเห็นอย่างนี้ว่า ทองคำแท่งของเรานี้บริสุทธิ์ผุดผ่อง ผิฉะนั้น เราพึงนำเอาทองคำแท่งนี้ไปแสดงแก่นายช่างทอง ทองคำแท่ง ของเรานี้ไปถึงนายช่างทองเข้า จักบริสุทธิ์และนับว่าบริสุทธิ์ ยิ่งขึ้น ด้วยอาการอย่างนี้ ฉะนั้น
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนสารีบุตร ดีละ ดีละ ภิกษุ สักการะ เคารพ อาศัยพระศาสดาอยู่แล จะพึงละอกุศล เจริญกุศล ดูก่อนสารีบุตร ภิกษุ สักการะ เคารพ อาศัยธรรม... อาศัยสิกขา... อาศัยสงฆ์... อาศัยสมาธิ... อาศัยความไม่ประมาท... อาศัยปฏิสันถารอยู่แล จะพึงละอกุศล เจริญกุศล
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว ท่านพระสารีบุตรได้ กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์รู้ทั่วถึงเนื้อความ แห่งพระดำรัสที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้วโดยย่อนี้ โดยพิสดาร อย่างนี้ว่า
ภิกษุไม่เคารพในพระศาสดา จักเคารพในธรรม ข้อนี้ ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ ภิกษุไม่เคารพในพระศาสดา ชื่อว่าไม่เคารพ ในธรรมด้วย ภิกษุไม่เคารพในพระศาสดา ในธรรม จักเคารพ ในสงฆ์ ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้
ภิกษุไม่เคารพในพระศาสดา ในธรรม ชื่อว่าไม่เคารพในสงฆ์ด้วย ภิกษุไม่เคารพในพระศาสดา ในธรรม ในสงฆ์ จักเคารพในสิกขา ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้
ภิกษุไม่เคารพในพระศาสดา ในธรรม ในสงฆ์ ชื่อว่าไม่เคารพ ในสิกขาด้วย ภิกษุไม่เคารพในพระศาสดา ในธรรม ในสงฆ์ ในสิกขา จักเคารพในสมาธิ ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ ภิกษุ ไม่เคารพในพระศาสนา ในธรรม ในสงฆ์ ในสิกขา ชื่อว่าไม่ เคารพในสมาธิด้วย ภิกษุไม่เคารพในพระศาสดา ในธรรม ในสงฆ์ ในสิกขา ในสมาธิ จักเคารพในความไม่ประมาท ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้
ภิกษุไม่เคารพในพระศาสดา ในธรรม ในสงฆ์ ในสิกขา ในสมาธิ ชื่อว่าไม่เคารพในความไม่ประมาทด้วย ภิกษุ ไม่เคารพในพระศาสดา ในธรรม ในสงฆ์ ในสิกขา ในสมาธิ ในความไม่ประมาท จักเคารพในปฏิสันถาร ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้
ภิกษุไม่เคารพในพระศาสดา ในธรรม ในสงฆ์ ในสิกขา ในสมาธิ ในความไม่ประมาท ชื่อว่าไม่เคารพในปฏิสันถารด้วย ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ภิกษุเคารพในพระศาสดา จักไม่เคารพในธรรม ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้
ภิกษุเคารพในพระศาสดา ชื่อว่า เคารพในธรรมด้วย ภิกษุเคารพในพระศาสดา ในธรรม จักไม่เคารพในสงฆ์ ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ ภิกษุเคารพในพระศาสดา ในธรรม ชื่อว่าเคารพในสงฆ์ด้วย ภิกษุเคารพในพระศาสดา ในธรรม ในสงฆ์ จักไม่เคารพในสิกขา ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้
ภิกษุเคารพในพระศาสดา ในธรรม ในสงฆ์ ชื่อว่า เคารพในสิกขาด้วย ภิกษุเคารพในพระศาสดา ในธรรม ในสงฆ์ ในสิกขา จักไม่เคารพในสมาธิ ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้
ภิกษุ เคารพในพระศาสดา ในธรรม ในสงฆ์ ในสิกขา ชื่อว่าเคารพใน สมาธิด้วย ภิกษุเคารพในพระศาสดา ในธรรม ในสงฆ์ ในสิกขา ในสมาธิ จักไม่เคารพในความไม่ประมาท ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้
ภิกษุเคารพในพระศาสดา ในธรรม ในสงฆ์ ในสิกขา ในสมาธิ ชื่อว่าเคารพในความไม่ประมาท ภิกษุเคารพในพระศาสดา ในธรรม ในสงฆ์ ในสิกขา ในสมาธิ ในความไม่ประมาท ชื่อว่าเคารพในปฏิสันถารด้วย
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์รู้ทั่วถึงเนื้อความแห่งพระดำรัสที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสแล้วโดยย่อนี้ โดยพิสดารอย่างนี้
พ. ดูก่อนสารีบุตร ดีละ ดีละ สารีบุตร เธอรู้ทั่วเนื้อความ แห่งคำที่เรากล่าวแล้วโดยย่อนี้ โดยพิสดารอย่างนี้ ดีแล้ว ดูก่อน สารีบุตร ภิกษุไม่เคารพในพระศาสดา จักเคารพในธรรม ข้อนี้ ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้
ภิกษุไม่เคารพในพระศาสดา ชื่อว่าไม่ เคารพในธรรมด้วย ฯลฯ ภิกษุไม่เคารพในพระศาสดา ในธรรม ในสงฆ์ ในสิกขา ในสมาธิ ในความไม่ประมาท จักเคารพใน ปฏิสันถาร ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้
ภิกษุไม่เคารพในพระ ศาสดา ในธรรม ในสงฆ์ ในสิกขา ในสมาธิ ในความไม่ประมาท ชื่อว่าไม่เคารพในปฏิสันถารด้วย
ดูก่อนสารีบุตร ภิกษุเคารพในพระศาสดา จักไม่เคารพ ในธรรม ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ ภิกษุเคารพในพระศาสดา ชื่อว่าเคารพในธรรมด้วย ฯลฯ
ภิกษุเคารพในพระคาสดา ในธรรม ในสงฆ์ ในสิกขา ในสมาธิ ในความไม่ประมาท จักไม่เคารพใน ปฏิสันถาร ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ ภิกษุเคารพในพระศาสดา ในธรรม ในสงฆ์ ในสิกขา ในสมาธิ ในความไม่ประมาท ชื่อว่า เคารพในปฏิสันถารด้วย ดูก่อนสารีบุตร เธอพึงเห็นเนื้อความ แห่งคำที่เรากล่าวแล้วโดยย่อนี้ โดยพิสดารอย่างนี้แล
จบ สักกัจจสูตรที่ ๖
อรรถกถา สักกัจจสูตรที่ ๖
สักกัจจสูตรที่ ๖ มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า ปริสุทฺธา จ ภวิสสนฺติ ความว่า ธรรมเหล่านี้จักบริสุทธิ์ ไร้มลทิน โดยประมาณอย่างยิ่ง. ส อักษร ในบทว่า สกมฺมารคโต นี้ เป็นเพียงนิบาต อธิบายว่า ถึงช่างทองแล้ว คือถึงเตาของช่างทองแล้ว
จบ อรรถกถาสักกัจจสูตรที่ ๖