พรหมโลกมีกามหรือไม่

 
เบน
วันที่  18 ก.ย. 2552
หมายเลข  13601
อ่าน  3,146
ในพรหมโลกมีจิตที่เนื่องด้วยกามหรือไม่

  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 18 ก.ย. 2552

ในพรหมโลกมีกามาวจรจิตเกิดได้ เพราะพรหมทั้งหลายที่ไม่ใช่พระอรหันต์มีอยู่เมื่ออกุศลจิตเกิดขึ้น อกุศลจิตนั้นเป็นกามาวจรจิต และรูปพรหมส่วนมากยังมีจิตเห็น จิตได้ยิน และกามวจรจิตอื่นๆ เกิดได้ สรุปคือ ในพรหมโลกยังมีกิเลสกามและวัตถุกามครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
เมตตา
วันที่ 18 ก.ย. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
วิริยะ
วันที่ 18 ก.ย. 2552

เรียนความเห็นที่ 1

ในพรหมโลกเจริญสติปัฏฐานไม่ได้ใช่หรือไม่ และถ้าจะเกิดบนพรหมโลก

ก็ต้องเจริญฌาณเท่านั้น ใช่หรือไม่

ขอบพระคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
prachern.s
วันที่ 19 ก.ย. 2552

ในพรหมโลกบางพวกเจริญสติปัฏฐานไม่ได้ บางพวกเจริญสติปัฏฐานได้

อสัญญสัตตาพรหมภูมิ เจริญสติปัฏฐานไม่ได้ เพราะมีแต่รูปเท่านั้น ไม่มีนามธรรม

ส่วนพรหมที่เหลือ เจริญสติปัฏฐานได้ และการจะเกิดบนพรหมโลกได้ต้องมีฌาณจิต

แต่ผู้บรรลุเป็นพระอนาคามีเมื่อตายแล้วย่อมเกิดในพรหมโลก เพราะจุติเกิดฌานย่อมเกิดขึ้นครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
จำแนกไว้ดีจ๊ะ
วันที่ 19 ก.ย. 2552
มีกิเลสกามและวัตถุกามอยู่ในพรหมโลกหรือท่าน?ไม่มีกามาวจรจิตเกิดในนรกหรือท่าน?
 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
วิริยะ
วันที่ 19 ก.ย. 2552

เรียนความเห็นที่ 4

อรูปพรหมภูมิ ไม่มีรูป มีแต่นามจึงเจริญสติปัฏฐานได้ ใช่หรือไม่คะ และที่ท่านกล่าวว่า ผู้บรรลุเป็นพระอนาคามีเมื่อตายแล้วย่อมเกิดในพรหมโลก พรหมโลกนั้นๆ หมายถึงอรูปพรหม ใช่หรือไม่

ขอบพระคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
wannee.s
วันที่ 19 ก.ย. 2552

อรูปพรหม เจริญสติปัฏฐานได้ก็มี ไม่ได้ก็มี ผู้ที่เคยอบรมเจริญสติปัฏฐาน ใน

ชาติก่อนที่เป็นอรูปพรหม เช่น พระโสดาบันเป็นต้น ท่านก็เจริญสติปัฏฐานต่อได้

ส่วนผู้ที่ไม่ได้อบรมเจริญสติปัฏฐานมาก่อนก็เจริญไม่ได้ และคำว่าพรหมโลก หมาย

ถึง รูปพรหม และอรูปพรหมค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
เบน
วันที่ 19 ก.ย. 2552

เมื่อเกิดเป็นพรหมบุคคลแล้ว ได้อบรมเจริญสติจนสามารถบรรลุเป็นพระอรหันต์

พระอรหันต์ในพรหมภูมมีจิตที่เนื่องด้วยกามหรือไม่ จิตเห็น เป็นวิบากจิตเป็น

กามจิตหรือไม่คะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
วันใหม่
วันที่ 19 ก.ย. 2552

จากคำถามกระทู้และความเห็นที่ 8 อิทมฺปิ พุทฺเธ รตนํ ปณีตํ เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ

แม้นี้ก็เป็นรัตนะอันประณีตคือพระพุทธเจ้า ด้วยคำสัตย์นี้

ขอความสวัสดีจงมีแก่สัตว์ทั้งหลาย ก่อนอื่นจะต้องเข้าใจคำว่ากามาวจรจิตให้ถูกต้องก่อน กามาวจรจิต ไม่ได้หมายถึง

กิเลสกามที่เป็นโลภะ เป็นอกุศล แต่กามาวจรจิตคือตัวจิตที่ท่องเที่ยวไป ด้วย

สามารถแห่งการกระทำให้เป็นอารมณ์ คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ หมายความ

ว่า จิตใดที่มีรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ เป็นอารมณ์แล้ว จิตนั้นเป็น กามาวจรจิต

ดังนั้น กามาวจรจิตจึงเป็นได้ทั้ง 4 ชาติคือ กุศล อกุศล วิบากและกิริยา ขณะที่เห็น มี

รูปเป็นอารมณ์ จิตนั้นเป็นกามาวจรจิต พรหมมีการเห็น ขณะที่เห็นเป็นกามาวจรจิต

พรหมเห็นรูปแล้วเป็นกุศลจิต กุศลจิตมีรูป (สิ่งที่ปรากฎทางตา) เป็นอารมณ์ จิตนั้นเป็น

กามมาวจรจิต ดังนั้นคำว่าจิตเนื่องด้วยกาม หรือกามมาวจรจิตไมได้หมายถึงจะต้อง

เป็นอกุศลจิตเท่านั้น แต่จิตใดมีรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ เป็นอารมณ์ จิตนั้นเป็น

กามาวจรจิต พระอรหันต์ ท่านก็ยังเห็น ขณะที่เห็นเป็นวิบากจิต เห็นมีรูป เป็นอารมณ์

เพราะมีรูปเป็นอามรณ์จึงเป็นกามมาวจรจิต ดังนั้นไม่ว่าเป็นบุคคลใด สัตว์ประเภทใด

เมื่อใดก็ตามจิตนั้นมีรูป เสียง.. โผฏฐัพพะ เป็นอารมณ์ จิตนั้นเป็นกามมาวจรจิต สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
วิริยะ
วันที่ 20 ก.ย. 2552

ขอบคุณความเห็นที่ 7 และ 9 ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
khampan.a
วันที่ 20 ก.ย. 2552

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
BudCoP
วันที่ 20 ก.ย. 2552

นโม อินฺทฺริยปโรปริยตฺตญาณสฺส : ขอนอบน้อมแด่อินทริยปโรปริยัตตญาณ

สวัสดีครับ ทุกท่าน, สนทนาธรรมกันแน่นห้องทีเดียว ผมขอโอกาสร่วมสนทนาด้วยคน นะครับ.

ขอเรียนเสนอแนวคิดถึงคำถามของทั้งสองท่าน คือ คุณเบน, และคุณวิริยะ ดังนี้ .-

เรียนคุณ เบน ครับ :

คำว่า "เนื่องด้วยกาม" ของคุณเบน, ผมตีความหมายว่า น่าจะหมายถึง "เนื่องด้วยกามราคปริยุฏฐาน".

ถ้าเป็นเช่นนั้น ควรตอบว่า ไม่มีในพรหมโลก ครับ. อย่างไรก็ตาม หากคุณเบนคิดว่าไม่ใช่ อาจเลือกความหมายของกาม ตามชุดที่ผมจัดมาด้านล่างนี้ ครับ .-

กามราคานุสัย :

มีในพรหมโลกเพราะอรรถว่าได้ปัจจัยจึงเกิด ไม่ใช่เกิดในพรหมโลกแบบปริยุฏฐาน.

กามราคะปริยุฏฐาน :

ไม่มีในพรหมโลก เพราะพระพรหมสามารถละกามราคะได้ตั้งแต่ยังไม่เป็นพรหมแล้ว. พรหมโลกมีแต่ภวราคปริยุฏฐาน.

กิเลสกาม :

ไม่มีในพรหมโลก ถ้าหมายกิเลสกามเป็นกามราคะปริยุฏฐาน, มีในพรหมโลก ถ้าหมายกิเลสกามเป็นกามราคานุสัย (กิเลสกามความหมายหลังนี้ ถ้าไม่ใช่คัมภีร์ที่แจกละเอียดมาก ไม่น่ามีใช้) .

จิตที่มีกามธรรมเป็นอารมณ์ :

มีในพรหมโลก เพราะในพรหมโลกยังมีจักขุทวาร, โสตทวาร, และยังรู้จิตเจตสิกที่เป็นกามาวจรได้อยู่ เช่น สหัมบดีพรหมใช้ตาส่องดูที่อยู่หรือใช้ใจตรวจดูความคิดพระพุทธเจ้า เป็นต้น, นอกจากนี้ อภิญญาจิตของพรหมยังสามารถรู้กามาวจรธรรมได้
เช่นกัน.

รูปาวจรจิตที่มีกามธรรมเป็นอารมณ์ :

มีทั้งในกามสุคติโลกและรูปพรหมโลก เพราะอภิญญาจิตซึ่งเป็นปัญจมรูปาวจรกุศลและกิริยา สามารถรู้กามธรรมได้.

กามธรรม :

มีในพรหมโลก เพราะในพรหมโลกยังมี กามวจรจิต 38, เจตสิก 45 ที่ประกอบกับกามาวจรจิต, รูป 23 ซึ่งเป็นกามธรรมทั้งสิ้น ครับ.

วัตถุกาม หรือ กามคุณ 5 :

มีในพรหมโลก แต่ไม่เป็นที่ตั้งของกามราคปริยุฏฐานของพรหม เป็นได้เฉพาะที่ตั้งของกามราคปริยุฏฐานของผู้อื่น, กามราคานุสัยทั้งของตนและของผู้อื่น.

มีข้อน่าสังเกตตรง"รูปาวจรจิตที่มีกามธรรมเป็นอารมณ์"ว่า มีได้ทั้งที่เป็นรูปาวจรจิต แต่เป็นประเภทอภิญญา, ครงเพราะเหตุนี้เองทำให้ท่านไม่นิยมให้คำจำกัดความว่า กามาวจรจิตเท่านั้นที่รู้กามคุณ 5, แต่ใช้ว่า กามาวจรจิต คือ จิตที่เที่นวไปในกามาวจรภูมิโดยส่วนมาก (เพราะส่วนน้อยที่เป็นไปในรูปาวจรภูมิก็มีเหมือนกัน)

ถ้าคุณเบนเลือกข้อใดได้จากหัวข้อข้างต้นหรือมีข้ออื่นจากนี้ แนะว่า ควรโพสไว้จะเป็นการดี, ทั้งนี้เพื่อให้ทราบลักษณะคำถามที่ชัดเจน ครับ.



เรียนคุณ วิริยะ ครับ :

พรหมในที่นี้ คือ ผู้ที่เคยเจริญฌานกุศล จนได้ไปเกิดบนพรหมโลกเพราะวิบากแห่งฌานกุศลนั้น.เมื่อแบ่งตามการเจริญสติปัฏฐาน เราสามารถพรหมออกได้ดังนี้ .-

1. พรหมชั้นที่เจริญสติปัฏฐานไม่ได้แน่นอน

มี 1 ชั้นเท่านั้น คือ อสัญญาภพ เพราะไม่มีปัญญาเกิดที่อสัญญสัตตาภพ เว้นแต่จะมีอภิญโญทัวร์.

2. พรหมชั้นที่เจริญสติปัฏฐานได้แน่นอนแม้ไม่ได้ฟังธรรม

มี 5 ชั้น คือ สุทธาวาสภพ 5 เพราะเคยบรรลุธรรม รู้วิธีชัดเจนดีอยู่แล้ว.

3. พรหมโลกชั้นที่เจริญสติปัฏฐานได้แน่นอนถ้าได้ฟังธรรม

มี 10 ชั้น คือ ตั้งแต่ปาริสัชชาภพจนถึงเวหัปผลาภพ (รูปพรหมทั้งหมดเว้น 6 ชั้นใน 2 ข้อแรกที่กล่าวไปแล้ว) .

เพราะท่านมีจักขุและโสตะ จึงรับรู้รับฟังคำสอนที่ทำให้ตรัสรู้ได้.

4. พรหมโลกชั้นที่เจริญสติปัฏฐานได้เฉพาะผู้ที่เป็นพระอริยะมาก่อนเท่านั้น

มี 4 ชั้น คือ อรูปภพ 4 เพราะพระอริยะเท่านั้นที่รู้วิธีเจริญสติปัฏฐานตาม มหาสติปัฏฐานสูตรเป็นต้นได้ตามที่เคยบรรลุมา.

ส่วน อรูปพรหมปุถุชนไม่มีสิทธิ์ทราบพระสัทธรรมได้เลย เหตุผลเท่าที่รวบรวมได้ มี 3 ประการ คือ.-

1. อรูปพรหมปุถุชนไม่มีทั้งจักขุและโสตะ (ทั้งตาบอดและหูหนวก) ตรงนี้สำคัญมาก ถ้าไม่มีจะทำให้รับรู้คำสอนที่ทำให้ตรัสรู้ไม่ได้.

2. อรูปพรหมเจริญอภิญญา เช่น บุพเพนิวาสานุสสติญาณ เป็นต้น ที่เกี่ยวกับตาและหูไม่ได้ เพราะไม่มีทั้งจักขุปสาทะและโสตะปสาทะ.

3. ไม่มีปัญจมฌานกุศลที่เป็นอภิญญาเกิดในอรูปภพอีก ทำให้เจริญอภิญญาไม่ได้เลยโดยประการทั้งปวง.

ใน 3 ข้อนี้ ข้อแรก แสดงให้เห็นว่า อรูปพรหมจะไปแอบฟังคำสอนที่ไหนไม่ได้เลย, ส่วน 2 ข้อหลัง แสดงให้เห็นว่า อรูปพรหมจะระลึกชาติไปเอาคำสอนมาปฏิบัติก็ไม่ได้อีกเช่นกัน ครับ.



ขอให้ลองทำความเข้าใจตามนี้ น่าจะไม่สับสนหรือถูกโต้แย้ง. ส่วนตัวแล้ว ขณะที่เรียบเรียงก็เกรงว่าจะอ่านไม่จบอยู่เหมือนกัน, แต่คิดว่า ถึงจะโพสยาว แต่ถ้าอ่านกันจบได้ ก็น่าจะเคลียร์ประเด็นในกระทู้ไปได้ไม่มากก็น้อย ครับ.

ด้วยความปรารถนาดี ครับ.

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
จำแนกไว้ดีจ๊ะ
วันที่ 21 ก.ย. 2552
ไม่ทราบว่าจะสนทนากับผู้ใด พอดีท่าน BudCoP ความคิดเห็นที่ 12 สวัสดีทุกๆ ท่านผมขอสวัสดีตอบครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
วิริยะ
วันที่ 21 ก.ย. 2552

ขอบคุณ ความเห็นที่ 12 มากค่ะที่ได้ให้รายละเอียด

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
pornpaon
วันที่ 21 ก.ย. 2552

พลอยได้อ่านรายละเอียดด้วยคน

ขอบคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
จำแนกไว้ดีจ๊ะ
วันที่ 29 ก.ย. 2552

ความคิดเห็นที่ 5 กามธาตุมีในเบื้องล่างนับแต่อเวจีนรกเป็นที่สุดเบื้องบนกำหนดเทพชั้นปรนิมมิตวสวัตดีเป็นที่สุดกามธาตุเป็นชื่อของกามาวจรธรรม กามธาตุ เป็นชื่อของกามวิตก (ความตรึกในกาม) ธาตุคือกามจึงชื่อว่าวัตถุกาม ความประกอบด้วยกามจึงชื่อว่ากิเลสกาม

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ