พระโอวาทานุสาสนี...[๑]

 
พุทธรักษา
วันที่  28 ก.ย. 2552
หมายเลข  13754
อ่าน  1,681

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สิ่งใดสิ่งหนึ่ง มีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดาสิ่งนั้นทั้งมวล ล้วนมีความดับไป เป็นธรรมดา ธรรมเหล่าใด เกิดแต่เหตุพระตถาคต ทรงแสงเหตุแห่งธรรมเหล่านั้นและ ความดับไปแห่งธรรมเหล่านั้นพระมหาสมณะมีปกติ ตรัสอย่างนี้ สิ่งใดสิ่งหนึ่ง มีความเกิดขึ้น เป็นธรรมดาสิ่งเหล่านั้น ทั้งมวล มีความดับไป เป็นธรรมดา

พวกเธอ จงเป็นภิกษุ มาเถิดธรรม อันเรากล่าวดีแล้ว พวกเธอจงประพฤติพรหมจรรย์ เพื่อทำที่สุดแห่งทุกข์ โดยชอบเถิด. ขันติ เป็น ธรรมเครื่องเผากิเลสอย่างยิ่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ตรัสว่า นิพพาน เป็น ธรรมอันสูงสุด ผู้ทำร้ายผู้อื่น ไม่ชื่อว่าเป็น บรรพชิตผู้เบียดเบียนผู้อื่น ไม่ชื่อว่าเป็น สมณะ

การไม่ทำบาปทั้งปวง ๑ การยังกุศลให้ถึงพร้อม ๑ ทำจิตใจให้ผ่องใส ๑นี้ เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย การไม่กล่าวร้าย ๑ การไม่ทำร้าย ๑ความสำรวมในพระปาติโมกข์ ๑ ความเป็นผู้รู้ประมาณในโภชนะ ๑ที่นั่งที่นอนอันสงัด ๑ การประกอบความเพียรในอธิจิต ๑ นี้ เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

บุคคล ไม่พึงประมาท ในบิณฑบาตรที่ตนได้รับควรประพฤติธรรมให้สุจริต บุคคล ผู้ประพฤติธรรม ย่อมอยู่เป็นสุข ทั้งในโลกนี้ และ โลกหน้า.
"ดูก่อน โคตมี พระนางจงถวายสงฆ์เถิดเมื่อถวายสงฆ์ จักเป็นอันพระนางได้บูชา ทั้งอาตมา และ สงฆ์เพราะ เจตนา ๓คือ ก่อนถวาย ๑ กำลังถวาย ๑ โสมนัสเมื่อถวายแล้ว ๑

ความปรารถนาของนาง จักรวมเป็นอันเดียวกันจักเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขตลอดกาล แก่พระนาง. ธรรม ย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรมธรรม ที่บุคคลประพฤติดีแล้ว ย่อมนำสุขมาให้ผู้ประพฤติธรรม ย่อมไม่ไปทุคติ. ภิกษุผู้ออกบวชใหม่ๆ ด้วยศรัทธา ยังใหม่ต่อการศึกษาควรคบหากัลยาณมิตร พำนักอยู่ในหมู่สงฆ์ผู้ฉลาดศึกษาพระธรรมวินัยให้เข้าใจ เป็นผู้ฉลาด ในสิ่งที่ควร และ ไม่ควรไม่ควรประพฤติตน เป็นคนออกหน้าออกตา. การถวายวิหาร แก่สงฆ์ เพื่อเร้นอยู่ เพื่อเจริญวิปัสสนาพระพุทธเจ้าทั้งหลาย สรรเสริญการถวายเสนาสนะแก่สงฆ์ว่า เป็นทาน อันเลิศ.

ลำดับนั้น พระพุทธองค์ทรงล้างพระบาทแล้วเหลือน้ำไว้ในภาชนะหน่อยหนึ่ง ตรัสกับสามเณรว่า "ดูก่อน ราหุล เธอเห็นน้ำที่เหลืออยู่ในภาชนะนี้หรือ" "เหลืออยู่เล็กน้อย พระเจ้าข้า"

"ดูก่อน ราหุล สมณธรรมของผู้ที่ไม่มีคุณธรรมในการกล่าวมุสา ทั้งที่รู้อยู่ก็มีน้อยเหมือนน้ำนี้ เช่นกัน ฉะนั้น"

จากนั้น พระผู้มีพระภาคฯ ทรงเทน้ำที่เหลืออยู่นั้นทั้งหมด ตรัสว่า

"ดูก่อน ราหุลสมณธรรมของผู้ไม่มีคุณธรรมในการกล่าวมุสา ทั้งที่รู้อยู่ก็เป็นของที่เขาทิ้งเสียแล้วเหมือนกัน ฉะนั้น" พระผู้มีพระภาคฯ ทรงคว่ำภาชนะนั้น ตรัสว่า "ดูก่อน ราหุลสมณธรรมของผู้ที่ไม่มีคุณธรรมในการกล่าวมุสา ทั้งที่รู้อยู่ก็เป็นของว่างเปล่าเหมือนกัน ฉันนั้น" ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคฯ ทรงหงายภาชนะน้ำนั้นขึ้น ตรัสว่า

"ดูก่อน ราหุลสมณธรรมของผู้ไม่มีคุณธรรมในการกล่าวมุสาอยู่ ทั้งที่รู้อยู่ก็เป็นของว่างเปล่าเหมือนกัน ฉันนั้น"

"ดูก่อน ราหุล ผู้กล่าวเท็จ ทั้งๆ ที่รู้อยู่ ... จะไม่ทำบาป ไม่มีเพราะเหตุนั้นแหละ เธอพึงศึกษา ว่าเราจักไม่กล่าวมุสา แม้เพียงเพื่อหัวเราะกันเล่น".

"ดูก่อน ราหุล แว่น มีประโยชน์อย่างไร.?"

"มีประโยชน์สำหรับส่องดูตัวเอง พระเจ้าข้า"

"ดูก่อน ราหุลฉันนั้น เหมือนกัน เมื่อเธอจะทำกรรมใด ด้วยกาย วาจา และ ใจเธอพึงตรวจตราพิจารณา ว่า กรรมใด เบียดเบียนตน และ ผู้อื่น เป็นอกุศล มีทุกข์เป็นกำไร มีทุกข์เป็นวิบากกรรมนั้น เธอไม่ควรทำส่วนกรรมใด ทำแล้ว ไม่เบียดเบียนตน ไม่เบียดเบียนผู้อื่นเป็นกุศล มีสุขเป็นกำไร มีสุขเป็นวิบากเธอพึงมีปีติ ปราโมทย์ ศึกษาในกุศลธรรมเหล่านั้นทั้งกลางวัน กลางคืนเถิด"

"ดูก่อน ราหุลสมณพราหมณ์ทั้งหลาย ในอดีต ชำระกายกรรม วจีกรรม และ มโนกรรม แล้วอย่างนี้ในอนาคต ก็จักชำระอย่างนี้ แม้ในปัจจุบัน ก็ย่อมชำระ อย่างนี้ ฉะนั้น เธอ เมื่อจะศึกษาตามสมณพราหมณ์ก็พึงศึกษาอย่างนี้ เหมือนกัน"


... ขออนุโมทนา ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
pornpaon
วันที่ 29 ก.ย. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
noynoi
วันที่ 29 ก.ย. 2552

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
คุณ
วันที่ 29 ก.ย. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Sam
วันที่ 29 ก.ย. 2552

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 29 ก.ย. 2552

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
เมตตา
วันที่ 29 ก.ย. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
hadezz
วันที่ 17 ก.ย. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chatchai.k
วันที่ 18 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ