กกุธสูตร ... ผู้มีความเพลิดเพลินนั่นแหละ จึงมีทุกข์
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 358
๘. กกุธสูตร
[๒๖๖] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระอัญชนวัน ที่พระราชทานอภัยแก่เนื้อ เมืองสาเกต ครั้งนั้น กกุธเทวบุตร เมื่อสิ้นราตรี ปฐมยาม มีวรรณะงามยิ่งนัก ทำอัญชนวันให้สว่างทั่วแล้ว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ครั้นแล้ว ก็ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว ได้ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.
[๒๖๗] กกุธเทวบุตร ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระสมณะ พระองค์ทรงยินดีอยู่หรือ. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนผู้มีอายุ เราได้อะไรจึงจะยินดี. กกุธเทวบุตรกราบทูลว่า ข้าแต่พระสมณะ ถ้าอย่างนั้นพระองค์ ทรงเศร้าโศกอยู่หรือ. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนผู้มีอายุ เราเสื่อมอะไร จึงจะเศร้าโศก. กกุธเทวบุตรกราบทูลว่า ข้าแต่พระสมณะ ถ้าอย่างนั้นพระองค์ ไม่ทรงยินดีเลย ไม่ทรงเศร้าโศกเลยหรือ. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า เป็นเช่นนั้น ผู้มีอายุ.
[๒๖๘] กกุธเทวบุตร กราบทูลว่า ข้าแต่ภิกษุ พระองค์ไม่มีทุกข์บ้างหรือ ความเพลิดเพลินไม่มีบ้างหรือ ความเบื่อหน่ายไม่ครอบงำพระองค์ผู้ประทับนั่ง แต่พระองค์เดียวบ้างหรือ
[๒๖๙] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนท่านผู้อันคนบูชา เราไม่ทุกข์เลย และความเพลิดเพลินก็ไม่มี อนึ่ง ความเบื่อหน่าย ก็ไม่ครอบงำเราผู้นั่งแต่ผู้เดียว.
[๒๗๐] กกุธเทวบุตรทูลถามว่า ข้าแต่ภิกษุ ทำไมพระองค์จึงไม่มีทุกข์ ทำไมความเพลิดเพลินจึงไม่มี ทำไมความเบื่อหน่ายจึงไม่ครอบงำพระองค์ผู้นั่งแต่ผู้เดียว.
[๒๗๑] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ผู้มีทุกข์นั่นแหละ จึงมีความเพลิดเพลิน ผู้มีความเพลิดเพลินนั่นแหละ จึงมีทุกข์ ภิกษุย่อมเป็นผู้ไม่มีความเพลิดเพลิน ไม่มีทุกข์ ท่านจงรู้อย่างนี้เถิด ผู้มีอายุ.
[๒๗๒] กกุธเทวบุตรทูลว่า นานหนอ ข้าพระองค์เพิ่งพบเห็น ผู้เป็นพราหมณ์ดับสนิทแล้ว ไม่มีความยินดี ไม่มีทุกข์ ข้ามพ้นเครื่องข้อง ในโลกแล้ว.