การศึกษาพระธรรม คือ การเริ่มออกจากสังสารวัฏฏ์

 
พุทธรักษา
วันที่  4 ต.ค. 2552
หมายเลข  13846
อ่าน  1,189

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เรื่องของการละกิเลสเป็นเรื่องที่สุขุม ลึกซึ้ง ต้องมีการพิจารณา ไตร่ตรอง ให้ได้เหตุผลตั้งแต่ ขั้นของการฟัง การศึกษา ตลอดไปจนถึง ขั้นปฏิบัติ คือ การอบรมเจริญปัญญาจึงจะสามารถ ละกิเลส ได้จริงๆ เพราะนอกจากกิเลสที่เราเห็นกันอยู่ในชาตินี้ซึ่งกำลังสะสมอยู่เรื่อยๆ ตลอดเวลาแล้ว ในอดีตอนันตชาติ-นับไม่ถ้วน นั้นเราก็ได้สะสมกิเลส สืบเนื่องมา จนถึงชาตินี้ด้วย

เพราะฉะนั้น ถ้าไม่อบรมเจริญปัญญาเริ่มต้น ละคลายกิเลส เสียตั้งแต่ในชาตินี้แล้วชาติต่อๆ ไป กิเลสก็ยิ่งหนา และ ละยากขึ้นทุกที การละกิเลสนั้น ต้องเริ่มจาก การละความไม่รู้ และ ละความเห็นผิด ในสภาพธรรมที่กำลังปรากฏละความเห็นผิด ว่า รูปร่างกายทั้งหมด "เป็นตัวเรา"ละความเห็นผิด ว่า ความสุข ความทุกข์ ที่เกิดขึ้น และหมดไปเปลี่ยนแปลงไปอยู่ทุกขณะ นั้น "เป็นตัวเรา"ไม่มีอะไรสักอย่างที่ตั้งมั่น ดำรงอยู่ พอที่จะให้ยึดถือว่า เป็นตัวตน และ เป็นเรา

แต่ การรู้ความจริง อย่างนี้ เป็นการคิด พิจารณา เท่านั้น ยังไม่ใช่ การรู้ลักษณะของสภาพธรรมคือ นามธรรม และ รูปธรรม แต่ละประเภท แต่ละขณะๆ ที่กำลังเกิด-ดับ-สืบต่ออย่างรวดเร็ว และ ถ้าไม่มีการรู้ชัดในลักษณะของนามธรรม และรูปธรรม แต่ละประเภทก็ดับกิเลส ไม่ได้ การรู้ "ลักษณะ" ของนามธรรม และ รูปธรรม แต่ละประเภทที่ต่างกันนั้นเป็นปัจจัยให้ ละคลายความยึดถือ นามธรรม และ รูปธรรมแต่ละประเภท ว่า เป็นตัวตน ลงบ้าง และ ถ้ารู้ ตามความเป็นจริง ว่า นามธรรม และ รูปธรรม แต่ละประเภท ที่กำลังปรากฏนั้น มีปัจจัย ที่ทำให้เกิด-ปรากฏ แตกต่างกันอย่างไร.!ก็ยิ่งจะทำให้ ละคลายความยึดมั่นถือมั่นนามธรรม และ รูปธรรม เพิ่มขึ้น

เมื่อคลายความยึดมั่น ในนามธรรม และ รูปธรรม ลงบ้างแล้วก็จะค่อยๆ รู้-ถึงสภาพการเกิดขึ้น และ ดับไป ของนามธรรม และ รูปธรรม แต่ละประเภท ที่กำลังเกิดขึ้น และ ดับไป เมื่อมี "ปัญญา" ที่ รู้ชัด ตามความเป็นจริง ในนามธรรม และ รูปธรรม อย่างนี้จึงละคลายความไม่รู้ และ ความสงสัย ในสภาพธรรมทั้งหลายคือ นามธรรม และ รูปธรรม ที่กำลังปรากฏ ได้ อย่างแท้จริง ปัญญาขั้นฟัง ก็ยาก ปัญญาขั้นปฏิบัติ ก็ยาก.!แต่ถึงจะยากสักแค่ไหน ก็เป็นสิ่งที่น่ารู้ น่าพิสูจน์

เพราะสิ่งที่น่ารู้ และ น่าพิสูจน์ นั้น ก็คือ สิ่งที่กำลังปรากฏกับเรา ขณะนี้.! ไม่ว่าจะเป็น ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และ ทางใจทางใด ทางหนึ่ง ในชีวิต "ปกติ" ประจำวัน ลักษณะที่ไม่เที่ยง เกิด-ดับเปลี่ยนแปลง แปรปรวน ของนามธรรม และ รูปธรรม นั้นมีปรากฏอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน หรือ ทำอะไร สิ่งที่มีจริงนั้น พร้อมที่จะให้พิสูจน์อยู่ตลอดเวลา ถ้าเราไม่เริ่มที่จะพิสูจน์ให้รู้ ตั้งแต่ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ในขณะนี้ชีวิต ก็ย่อมระหก ระเหินไป ตามความหมุนเวียนของกิเลส กรรม วิบากในภพชาติต่างๆ ที่เกิดเป็น "บุคคล" ต่างๆ มีความสุข ทุกข์ หมุนเวียน เปลี่ยนไป ไม่รู้จักจบสิ้นเพราะไม่รู้ "ความจริงของชีวิต" สังสารวัฏฏ์ ก็ไม่สิ้นสุด และ โอกาสของ"ความเป็นมนุษย์" ในโลกนี้ก็กำลังหมดสิ้นไป ทุกวัน ทุกคืน

ในอังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต ทุติยปัณณาสก์อากังขวรรคที่ ๓ อภัพพสูตร ข้อ ๗๖พระผู้มีพระภาคฯ ตรัสว่า ดูกร ภิกษุทั้งหลายธรรม ๓ ประการนี้ ไม่พึงมีในโลกพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่พึงบังเกิดในโลกธรรมวินัย ที่พระตถาคตทรงประกาศแล้ว ไม่พึงมีในโลก ธรรม ๓ ประการ คือ ชาติ ๑ ชรา ๑ มรณะ ๑

พระผู้มีพระภาคฯ ตรัสว่า ดูกร ภิกษุทั้งหลายก็เพราะธรรม ๓ ประการนี้ มีอยู่ในโลกฉะนั้น พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงบังเกิดในโลกธรรมวินัย ที่พระตถาคตทรงประกาศไว้ จักรุ่งเรือง ในโลก และ ต่อจากนั้น พระผู้มีพระภาคฯ ทรงแสดง "เหตุ" ที่จะละธรรม ๓ ประการนี้ เป็นลำดับๆ ว่า อาศัยเหตุใด เป็นลำดับอย่างไร จึงละธรรม ๓ ประการนี้ได้ แต่อาจเป็นเพราะ "ธรรม ๓ ประการ" นี้มีปรากฏอยู่ตลอดเวลา ก็เป็นได้ ที่ทำให้เราชิน และ เห็นเป็นของธรรมดา จนไม่สนใจที่จะรู้ "ความจริง" คือ ธรรม ๓ ประการนี้ ให้ลึกซึ้ง ยิ่งขึ้น.

หนทางเดียว ที่ทำให้ระลึกถึง "ความจริง" คือ ธรรม ๓ ประการ นี้และ เริ่มสนใจที่จะศึกษา และ เจริญกุศลทุประการเพื่อ ค่อยๆ ละคลายกิเลส "ตามลำดับ" คือ ความไม่ประมาท ในการเจริญกุศลทุกประการไม่ว่าจะเป็น กุศลที่เล็กน้อยสักแค่ไหน ก็ตาม อาศัยการเจริญกุศลเล็กๆ น้อยๆ ไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่มีโอกาสกุศลเหล่านั้น ที่ได้เจริญแล้ว ย่อมเป็น "ปัจจัย" ที่อุปการะ ส่งเสริมและ เกื้อกูลแก่กุศลขั้นต่อๆ ไป จนถึงการดับกิเลสได้ ในที่สุดที่สุด

ข้อความบางตอนจากหนังสือ "บทสนทนาธรรม" โดย มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา

ขออนุโมทนาขออุทิศกุศลแด่คุณพ่อ คุณแม่ และ สรรพสัตว์.


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
Nataya
วันที่ 9 ม.ค. 2561

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 18 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ