สมณะ ๔ จำพวก และ ความสำเร็จของภิกษุในพระพุทธศาสนา

 
พุทธรักษา
วันที่  7 ต.ค. 2552
หมายเลข  13887
อ่าน  3,418

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 1

สีหนาทวรรค ๑

จูฬสีหนาทสูตร

[๑๕๓] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้ :-สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันอารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายแล้ว ภิกษุเหล่านั้น ได้ทูลรับสนองพระพุทธพจน์แล้ว

สมณะ ๔ จำพวก

พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้ ว่า ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย สมณะ มีในพระศาสนานี้ เท่านั้น สมณะที่สอง มีในพระศาสนานี้ สมณะที่สาม มีในพระศาสนานี้ สมณะที่สี่ มีในพระศาสนานี้ ลัทธิของศาสดาอื่น ว่างเปล่าจาก "พระสมณะผู้รู้ทั่วถึง" ดูก่อน ภิกษุทั้งหลายพวกเธอ จงบันลือสีหนาทโดยชอบอย่างนี้ ด้วยประการฉะนี้ทีเดียว ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย ก็เป็นฐานะที่จะมีได้แล ที่พวกปริพาชก อัญญเดียรถีย์ ในโลกนี้ พึงกล่าวอย่างนี้ว่า อะไร เป็นความมั่นใจของพวกท่าน อะไร เป็นกำลังของพวกท่านพวกท่านพิจารณาเห็นในตน ด้วยประการไร?

จึงกล่าวอย่างนี้ว่าสมณะมีในพระศาสนานี้ เท่านั้นสมณะที่สอง มีในพระศาสนานี้ สมณะที่สาม มีในพระศาสนานี้ สมณะที่สี่ มีในพระศาสนานี้ ลัทธิของศาสดาอื่น ว่างเปล่าจาก "พระสมณะผู้รู้ทั่วถึง" ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย พวกปริพาชก อัญญเดียรถีย์ ผู้มีวาทะอย่างนี้ อันพวกเธอพึงกล่าวตอบอย่างนี้ว่าท่านผู้มีอายุทั้งหลายธรรม ๔ ประการ อันพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ผู้รู้ ผู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสแล้ว มีอยู่ที่พวกเรา เห็นธรรมเหล่านี้ ในตน จึงกล่าวอย่างนี้ว่า สมณะ มีในพระศาสนานี้ เท่านั้น สมณะที่สอง มีในพระศาสนานี้ สมณะที่สาม มีในพระศาสนานี้สมณะที่สี่ มีในพระศาสนานี้ ลัทธิของศาสดาอื่น ว่างเปล่าจาก "พระสมณะผู้รู้ทั่วถึง"

ธรรม ๔ อย่างเป็นไฉน?

๔ อย่าง คือ ความเลื่อมใสในพระศาสดาของพวกเรา มีอยู่ ความเลื่อมใสในพระธรรม มีอยู่ ความกระทำให้บริบูรณ์ในศีล มีอยู่ ทั้งคฤหัสถ์และบรรพชิต ผู้ประพฤติธรรมร่วมกัน เป็นที่น่ารัก น่าพอใจ มีอยู่ ดูก่อน ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ธรรม ๔ ประการ เหล่านั้นแล ผู้รู้ ผู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสแล้ว ที่พวกเรา เล็งเห็นธรรมเหล่านี้ในตน จึงกล่าวอย่างนี้


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
พุทธรักษา
วันที่ 7 ต.ค. 2552

ผู้มีอายุ ในข้อเหล่านี้ อะไร เป็นข้อที่แปลกกัน อะไร เป็นข้อประสงค์ อะไร เป็นข้อที่การทำให้ต่างกัน ในระหว่างของท่านและของเรา ดังนี้.

ดูก่อน ภิกษุทั้งหลายพวกปริพาชก-อัญญเดียรถีย์ ผู้มีวาทะอย่างนี้ อันพวกเธอพึงกล่าวตอบอย่างนี้ว่า ผู้มีอายุ ความสำเร็จ มีอย่างเดียวหรือมีมากอย่าง?

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกปริพาชก อัญญเดียรถีย์ เมื่อจะพยากรณ์โดยชอบ พึงพยากรณ์อย่างนี้ว่า ความสำเร็จ มีอย่างเดียวเท่านั้น ไม่มีมากอย่าง พวกเธอ พึงกล่าวอย่างนี้ว่า ผู้มีอายุ ก็ความสำเร็จนั้น เป็นของผู้มีราคะ หรือ ของผู้ปราศจากราคะ?

ดูก่อน ภิกษุทั้งหลายพวกปริพาชก อัญญเดียรถีย์ เมื่อจะพยากรณ์โดยชอบ พึงพยากรณ์อย่างนี้ว่าความสำเร็จนั้น เป็นของผู้ปราศจากราคะ มิใช่ของผู้มีราคะ พวกเธอ พึงกล่าวอย่างนี้ว่าความสำเร็จนั้น เป็นของผู้มีโทสะ หรือของผู้ปราศจากโทสะ?

ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย พวกปริพาชก อัญญเดียรถีย์ เมื่อจะพยากรณ์โดยชอบพึงพยากรณ์อย่างนี้ว่า ความสำเร็จนั้น เป็นของผู้ปราศจากโทสะ มิใช่ของผู้มีโทสะ พวกเธอ พึงกล่าวอย่างนี้ว่า ความสำเร็จนั้น เป็นของผู้มีโมหะ หรือของผู้ปราศจากโมหะ?

ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย พวกปริพาชก อัญญเดียรถีย์ เมื่อจะพยากรณ์โดยชอบ พึงพยากรณ์อย่างนี้ว่า ความสำเร็จนั้น เป็นของผู้ปราศจากโมหะ มิใช่ของผู้มีโมหะ พวกเธอ พึงกล่าวอย่างนี้ว่า ความสำเร็จนั้น เป็นของผู้มีตัณหา หรือของผู้ปราศจากตัณหา?

ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย พวกปริพาชก อัญญเดียรถีย์ เมื่อจะพยากรณ์โดยชอบพึงพยากรณ์อย่างนี้ว่าความสำเร็จนั้น เป็นของผู้ปราศจากตัณหา มิใช่ของผู้มีตัณหา พวกเธอ พึงกล่าวอย่างนี้ว่า ความสำเร็จนั้น เป็นของผู้มีอุปาทาน หรือของผู้ไม่มีอุปาทาน?

ดูก่อน ภิกษุทั้งหลายปริพาชก อัญญเดียรถีย์ เมื่อจะพยากรณ์โดยชอบ พึงพยากรณ์อย่างนี้ว่า ความสำเร็จนั้น เป็นของผู้ไม่มีอุปาทาน มิใช่ของผู้มีอุปาทาน พวกเธอ พึงกล่าวอย่างนี้ว่า ความสำเร็จนั้น เป็นของผู้รู้แจ้ง หรือของผู้ไม่รู้แจ้ง?

ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย พวกปริพาชก อัญญเดียรถีย์ เมื่อจะพยากรณ์โดยชอบพึงพยากรณ์อย่างนี้ว่า ความสำเร็จนั้น เป็นของผู้รู้แจ้ง มิใช่ของผู้ไม่รู้แจ้ง.
พวกเธอ พึงกล่าวอย่างนี้ว่า ความสำเร็จนั้น เป็นของผู้ยินดียินร้าย หรือของผู้ไม่ยินดียินร้าย?

ดูก่อน ภิกษุทั้งหลายปริพาชก อัญญเดียรถีย์ เมื่อจะพยากรณ์โดยชอบ พึงพยากรณ์อย่างนี้ว่าความสำเร็จนั้น เป็นของผู้ไม่ยินดียินร้าย มิใช่ของผู้ยินดียินร้าย พวกเธอ พึงกล่าวอย่างนี้ว่าความสำเร็จนั้น เป็นของผู้ยินดีในความเนิ่นช้า มีความเนิ่นช้าเป็นที่มายินดี หรือ ของผู้ยินดีในความไม่เนิ่นช้า มีความไม่เนิ่นช้าเป็นที่มายินดี?

ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย พวกปริพาชก อัญญเดียร์ถีย์ เมื่อจะพยากรณ์โดยชอบ พึงพยากรณ์อย่างนี้ว่าความสำเร็จนั้น เป็นของผู้ยินดี ในความไม่เนิ่นช้า มีความไม่เนิ่นช้า เป็นที่มายินดีมิใช่ของผู้ยินดี ในความเนิ่นช้า มีความเนิ่นช้า เป็นที่มายินดี

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
hadezz
วันที่ 8 ต.ค. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chatchai.k
วันที่ 18 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ