อินเดีย ... อีกแล้ว 2 เตรียมใจไปพระวิหารเชตวัน
เตรียมใจไปพระวิหารเชตวัน
ก่อนไปอินเดียคราวนี้ ตั้งใจจะให้เป็นกุศลมากๆ แต่ทุกอย่างก็เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยบังคับบัญชาไม่ได้ แต่สามารถจะศึกษาพระธรรมให้เข้าใจมากขึ้นเพื่อเป็นสังขารขันธ์ปรุงแต่งให้เมื่อไปสถานที่ใด ก็รำลึกถึงพระคุณของพระผู้มีพระภาค พระธรรม และพระสงฆ์ได้มากขึ้น ได้ฟังการบรรยายแนวทางวิปัสสนาครั้งที่ ๒๕๒๖ ท่านอาจารย์กล่าวว่า
"การไปนมัสการสังเวชนียสถานที่อินเดียคราวนี้ (๒๕๓๐) ในขณะที่จะเข้าไปสู่พระวิหารเชตวัน ดิฉันก็มีความรู้สึกว่า น่าจะให้แต่ละบุคคลได้คิดถึงธรรม เพราะฉะนั้นก็ตั้งเป็นปริศนาธรรมขึ้นว่า“ไปหาอะไรในพระเชตวัน?” เพราะว่าทุกคนกำลังที่จะเข้าสู่พระวิหารเชตวัน ไปทำไม ไปหาอะไร พระวิหารเชตวันมีอะไรที่แต่ละบุคคลต้องการที่จะไปหาสิ่งนั้น แต่ว่าสิ่งที่อยู่ในใจของดิฉัน คือ ไปหาผ้าเช็ดธุลี ซึ่งเป็นคุณธรรมของท่านพระสารีบุตร ซึ่งท่านเปรียบตัวของท่านเองว่า ท่านเป็นผู้ที่นอบน้อมอย่างยิ่ง ท่านเป็นอัครสาวก เป็นผู้เลิศทางฝ่ายปัญญา แต่ขอให้ดูสภาพของปัญญาว่า ยิ่งเป็นผู้มีปัญญาเท่าใด ความอ่อนน้อมถ่อมตนยิ่งมีมากเท่านั้น ไม่ใช่เป็นผู้ที่อวดความรู้ หรือว่าอวดความเก่ง หรือมีกิริยาอาการที่ไม่เหมือนผ้าเช็ดธุลี แต่ว่ายิ่งเป็นผู้ที่มีปัญญาแล้ว ต้องเป็นผู้ที่อ่อนน้อมถ่อมตน และสามารถที่จะไม่หวั่นไหว รับกระทบได้ทั้งสิ่งที่สะอาดและไม่สะอาด ไม่ว่าความไม่สะอาดนั้นจะเป็นเลือด เป็นน้ำลาย เป็นสารพัดอย่าง ผ้าเช็ดธุลีก็ไม่หวั่นไหวฉันใด เพราะฉะนั้นถ้าเข้าไปหาผ้าเช็ดธุลีในวิหารเชตวัน ในสมัยนี้ก็มีแต่การที่จะรำลึกถึงผ้าเช็ดธุลีหลายๆ ผืนมากมายทีเดียวในพระวิหารเชตวัน แต่ว่าในสมัยนี้ก็เพียงรำลึกถึง เพราะเหตุว่ากว่าแต่ละบุคคลจะได้อบรมเจริญปัญญาจนสามารถที่จะถึงความเป็นผ้าเช็ดธุลีได้ ต้องเป็นสิ่งที่อีกไกลแสนไกลทีเดียว
ท่านพระสารีบุตรไม่ได้เปรียบตัวของท่านเองเพียงเป็นดุจผ้าเช็ดธุลี ยังเปรียบตัวเองเหมือนลูกคนจัณฑาล ซึ่งเข้าไปสู่ที่มีบุคคลมากหน้าหลายตา ก็เข้าไปด้วยความอ่อนน้อม เข้าไปด้วยความนอบน้อม แล้วก็ยังเปรียบตัวของท่านเองว่าเหมือนกับโคเขาขาดซึ่งเมื่อไม่มีเขาแล้ว ก็ไม่สามารถที่จะทำร้ายหรือทำลายอะไรได้ ก็จะต้องเป็นผู้ที่เสงี่ยมเจียมตัว นี่คือคุณธรรมของพระอัครสาวกผู้เลิศทางฝ่ายปัญญา เพราะฉะนั้นทุกอย่างเป็นสิ่งที่อบรมได้ เจริญได้ ค่อยๆ อบรมไป โดยจำเพาะเมื่อรำลึกถึงพระคุณของพระอรหันต์ผู้ประเสริฐในสถานที่ที่มีโอกาสได้ไปนมัสการ ก็ทำให้ขอเป็นผู้ถึงพระธรรมด้วยการประพฤติปฏิบัติตาม แล้วแต่ว่าสติปัญญากำลังความสามารถจะทำให้ประพฤติปฏิบัติตามได้แค่ไหน แต่ก็ควรจะเป็นความตั้งใจมั่นพร้อมทั้งสัจจะ ที่จะอบรมประพฤติปฏิบัติตามไปอย่างนั้นเรื่อยๆ "
ก็คงจะเป็นสังขารขันธ์ปรุงแต่งให้เกิดกุศลมากขึ้นได้ เมื่อได้เข้าไปกราบพระคันธกุฎีของพระผู้มีพระภาคผู้ทรงแสดงธรรมทำให้ผู้ประพฤติปฏิบัติตามเป็นดุจผ้าเช็ดธุลี กุฏิของท่านพระสารีบุตร และพระอสีติมหาสาวกผู้เป็นดุจผ้าเช็ดธุลี ขอนอบน้อมที่จะประพฤติปฏิบัติตามเพื่อที่จะเป็นผ้าเช็ดธุลีให้มากขึ้นค่ะ
ผ้าเช็ดธุลี ลูกคนจัณฑาล โคเขาขาด เป็นการเปรียบเทียบตัวเองของท่านพระ-สารีบุตรต่อพระพุทธเจ้า จากสาเหตุที่มีพระรูปหนึ่งฟ้องพระพุทธเจ้าว่าท่านสารีบุตรได้กระทบท่านแล้วจากไปไดยไม่ขอโทษ การเปรียบเทียบสอนพระรูปนั้นว่า ถ้าพระรูปนั้นไม่มีปรกติเจริญสติปัฏฐาน ก็ย่อมมีการกล่าวกระทบแล้วจากไปโดยไม่ขอโทษ ภายหลังพระรูปนั้นก็กล่าวขออดโทษต่อพระสารีบุตร จากคำแนะนำของพระพุทธเจ้า
ผ้าเช็ดธุลี ลูกคนจัณฑาล โคเขาขาด เป็นลักษณะของผู้ที่เจริญสติปัฏฐาน ครับ
เอวัมเม สุตัง เอกัง สมยัง ภควา สาวัตถิยัง วิหรติเชตวเน อนาถปิณฑิกอาราเม ...
ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
สมัยหนึ่ง
พระผู้มีพระภาคประทับอยู่
ณ
พระวิหารเชตวัน
อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี
ใกล้พระนครสาวัตถี
ไพเราะซาบซึ้ง จิตน้อมระลึกบูชา
.....................................
อนุโมทนาค่ะ
ผู้ที่เคารพพระพุทธเจ้า ย่อมน้อมประพฤติปฎิบัติตามคำสอนของพระองค์
ด้วยความจริงใจตามกำลังของปัญญา กราบอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ