ได้ยินแล้วคิด_19
อดทนต่อโทสะ ก็พยายามอยู่ค่ะ
แต่
อดทนต่อโลภะ ก็...มักจะพ่ายแพ้
" อดทนต่อ...อกุศล " ในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะได้รับอารมณ์ที่น่าใคร่ น่าปรารถนา
หรือได้รับอารมณ์ที่ไม่ดี อดทนที่จะไม่เป็นไปกับอกุศล ผู้มีปัญญาย่อมเห็นโทษของอกุศล ควรน้อมกุศลธรรมเข้าสู่ตน สิ่งที่สำคัญที่สุด คืออดทนที่จะฟังพระธรรม
ให้เข้าใจ มีความจริงใจที่จะรู้ความจริงในสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ อดทนที่จะประพฤติ
ธรรมสมควรแก่ธรรม อดทนที่จะอบรมเจริญกุศลทุกประการ
ขออนุโมทนาค่ะ
ข้าพเจ้าข้อนอบน้อมพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง
ขออนุโมทนาค่ะ
" อดทนต่อ...อกุศล "
ได้ยินแล้วคิด...
อย่างไร...อะไร...ขณะใด
ขันติ คือ ความอดทน ความอดกลั้น ต่ออกุศลจิตที่เกิดขึ้นเป็นไปกับโลภะบ้าง หรือโทสะบ้าง ในอารมณ์ที่น่าปรารถนาหรือไม่น่าปรารถนา มิฉะนั้นแล้วจะเผากิเลสไม่ได้
ถ้าสติสัมปชัญญะเกิด ขันติบารมีย่อมเจริญขึ้น เพราะในวันหนึ่งๆ มีอกุศลเกิดมาก
จึงเห็นคุณของความอดทน ความอดทนที่มีอยู่ในชีวิตประจำวัน เป็น "อธิวาสนขันติ"
คือ ความอดทน ความอดกลั้นต่อภาวะแวดล้อม เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย และสภาพธรรมทุกๆ ขณะ เช่น อากาศที่เปลี่ยนแปลง ร้อนบ้าง หนาวบ้าง ขณะนั้นถ้าสติสัมปชัญญะไม่เกิด เพียงแต่บอกว่าร้อนจัง ก็เป็นอกุศลจิตแล้ว ฉะนั้นถ้าเป็นผู้สติสัมปชัญญะเกิด
ก็จะรู้กายวาจาที่กระทำในขณะนั้นว่า ขาดความอดทน หรือมีความอดทนเพิ่มขึ้นต่อสภาพธรรม ทั้งที่ไม่น่าปรารถนา และที่น่าปราถนา สามารถอ่านเพิ่มเติมจากหนังสือ
" บารมีในชีวิตประจำวัน "
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ตราบใดที่ไม่ได้เป็นพระอริยบุคคลขั้นสูงสุด คือ พระอรหันต์ ก็ยังต้องเป็นผู้เดินทางไกล กล่าวคือ สังสารวัฏฏ์ อยู่ตราบนั้น เพราะเหตุว่า พระอรหันต์ เท่านั้นที่เป็นผู้สิ้นสุดในการเดินทางไกลแล้ว (เป็นผู้มีทางไกลอันถึงแล้ว) ดังนั้น ผู้ที่ยังมีกิเลส ควรอย่างยิ่งที่จะเป็นผู้เห็นประโยชน์สูงสุดของการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม เพื่อสะสมความเข้าใจถูก เห็นถูกยิ่งขึ้น และ เพื่อขัดเกลากิเลสของตนเอง ด้วย ซึ่งจะเห็นได้ว่า ธรรมที่ควรมี ควรอบรมให้มีขึ้น นอกจากปัญญาแล้ว ยังมีคุณธรรมประการอื่นๆ อีกด้วย หนึ่งในนั้น ก็คือ ความอดทน (ขันติ) อดทนในการฟัง การศึกษา ไม่ย่อท้อ ถึงแม้ว่าจะยาก ก็มี-ความอดทนที่จะฟัง ที่จะศึกษาต่อไป ค่อยๆ สะสมความเข้าใจไปตามลำดับ จนกว่าวันหนึ่งข้างหน้าจะเป็นผู้สิ้นสุดการเดินทางไกลได้ในที่สุด (ซึ่งเป็นเรื่องที่ไกลมากจริงๆ ) นอกจากนั้นแล้วในชีวิตประจำวัน ยังต้องมีความอดทนในสิ่งอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งในสิ่งที่น่าปรารถนา และไม่น่าปรารถนา หรือ จะกล่าวโดยสรุปสั้นๆ ก็ได้ ว่า อดทนต่อกุศลวิบาก และ อดทนต่ออกุศวิบาก โดยที่ไม่หวั่นไหวไปด้วยอำนาจของกิเลส ไม่ว่าจะเป็นโลภะ หรือ โทสะ ก็ตาม ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ทนอดกับอดทนต่างกัน อดทนด้วยกุศล อดทนเพื่อเข้าใจความจริง
อดทนด้วยการฟังพระธรรม อดทนไม่ใช่เพื่อต้องการลาภ สักการะ
อดทนต่ออกุศลของคนอื่น ดังนั้นขณะที่เป็นอกุศลไม่อดทนแล้ว
แต่ก็อดทนด้วยเข้าใจว่าขณะที่เป็นอกุศลเป็นธรรมไม่ใช่เรา
ธรรมสวัสดีครับ