บุคคลย่อมบริสุทธิ์ด้วยอินทรีย์ ๕ [ชาครสูตร]
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ หน้าที่ 55-56
ชาครสูตร
[๑๓] เทวดานั้น ครั้นยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้วแลได้กล่าวคาถานี้ ในสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า เมื่อธรรมทั้งหลายตื่นอยู่ ธรรมประเภทไหนนับว่าหลับเมื่อธรรมทั้งหลายหลับธรรมประเภทไหนนับว่าตื่น บุคคลหมักหมมธุลี เพราะธรรมประเภทไหน บุคคลบริสุทธิ์ เพราะธรรมประเภทไหน.
[๑๔] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า เมื่อ สัทธินทรีย์ ๕ อย่าง ตื่นอยู่กามฉันทาทินิวรณ์ ๕ อย่าง นับว่าหลับเมื่อ กามฉันทาทินิวรณ์ ๕ อย่าง หลับสัทธาทินทรีย์ ๕ อย่าง นับว่าตื่น
บุคคลหมักหมมธุลี เพราะนิวรณ์ ๕ อย่างบุคคลบริสุทธิ์ เพราะ อินทรีย์ ๕ อย่าง.
อรรถกถาชาครสูตร
พึงทราบวินิจฉัยสูตรที่ ๖ ต่อไป :-
บทว่า ชาครตํ แปลว่า ตื่นอยู่.
บทว่า ปญฺจ ชาครตํ อธิบายว่าก็เมื่อว่าโดยคาถา ที่วิสัชนาเมื่ออินทรีย์ ๕ มี ศรัทธา เป็นต้น ตื่นอยู่ นิวรณ์ ๕ ก็ชื่อว่า หลับ. เพราะเหตุไร เพราะว่า บุคคลผู้พรั่งพร้อมด้วยนิวรณ์ ๕ นั้นนั่งก็ดี ยืนก็ดี แม้นอนจนอรุณขึ้นก็ดี ในที่ใดที่หนึ่ง ย่อมเป็นผู้ชื่อว่า หลับแล้ว เพราะความประมาท คือ เพราะความเป็นผู้พรั่งพร้อม ด้วยอกุศล.
เมื่อนิวรณ์ ๕ นี้ หลับแล้วอย่างนี้อินทรีย์ ๕ จึงชื่อว่า ตื่นอยู่.เพราะเหตุไร เพราะว่าบุคคลผู้พรั่งพร้อมด้วยอินทรีย์ ๕ มีศรัทธา เป็นต้น นั้นแม้นอนหลับในที่ใดที่หนึ่ง ก็ชื่อว่าเป็นผู้ตื่นอยู่ เพราะความไม่ประมาท คือ เพราะเป็นผู้พรั่งพร้อม ด้วยกุศล บุคคลย่อมถือเอา ย่อมถือ ย่อมถือมั่นซึ่งธุลีคือ กิเลส ด้วยนิวรณ์ ๕ นั่นแหละ.
พึงทราบเนื้อความนี้ว่า นิวรณ์ทั้งหลาย มีกามฉันทะ เป็นต้น ที่เกิดก่อนย่อมเป็นปัจจัยแก่กามฉันทะ เป็นต้น ซึ่งเกิดขึ้นทีหลัง ดังนี้เป็นต้นจึงชื่อว่า บุคคลย่อมบริสุทธิ์ ด้วยอินทรีย์ ๕ ดังนี้. แม้ในที่นี้ ท่านกล่าวอินทรีย์ ๕ทั้งที่เป็นโลกิยะ และ โลกุตตระ ดังนี้แล.
จบอรรถกถาชาครสูตรที่ ๖
ขออนุโมทนาขออุทิศกุศลแด่คุณพ่อ คุณแม่และ สรรพสัตว์.
ขอความกรุณาช่วยอธิบายเพิ่มเติมข้อความนี้ด้วยค่ะ.
บุคคลหมักหมมธุลี เพราะนิวรณ์ ๕ อย่างบุคคลบริสุทธิ์ เพราะ อินทรีย์ ๕ อย่าง.
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ