ท่านได้สะสมอะไรไว้บ้าง

 
shumporn.t
วันที่  20 ต.ค. 2552
หมายเลข  14015
อ่าน  1,435

ข้อความบางตอนจากเทปวิทยุ

ท่านอาจารย์ ในชาติที่สามารถจะสะสมได้ ก็ควรจะสะสมแต่ละบารมีไป ตามกำลังความสามารถ สำหรับบารมีทั้ง 10 นี้ค่ะ มีโลภะเป็นปฏิปักษ์ เพราะฉะนั้น ต้องไม่ลืมเลยนะค่ะ ว่าการที่ท่านจะเจริญบารมีนั้น ไม่ใช่เพราะต้องการผลของกุศล แต่ต้องเป็นเพราะเห็นโทษของอกุศลแต่ละประเภท ไม่ใช่ว่าท่านต้องการเจริญบารมี เพื่อผล คือ สังสารวัฏฏ์ แต่บำเพ็ญบารมีเพื่อที่จะขัดเกลากิเลส จนกว่าจะดับสังสารวัฏฏ์ได้ เพราะเหตุว่า การดับสังสารวัฏฏ์ หมายความถึง การดับกิเลสทั้งหมด เมื่อไม่มีกิเลสสังสาร จึงหมดได้ แต่ถ้าตราบใดยังมีกิเลสอยู่นะค่ะ ก็ไม่ใช่หนทางที่จะสิ้นสังสารวัฏฏ์ เพราะ

ฉะนั้น ไม่ใช่ทำกุศลเพื่อหวังกุศลในสังสารวัฏฏ์ ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่เห็นโทษของความตระหนีจึงให้ทาน บำเพ็ญทานบารมี ผู้ที่เห็นโทษในความเป็นผู้ทุศีล จึงรักษาศีล เห็นว่าการไม่สำรวมกายวาจา และการที่กายวาจาประพฤติในทางทุจริต ย่อมนำโทษมาให้ แม้แต่เพียงคำพูดค่ะ ซึ่งถ้าไม่สำรวมนะค่ะ ก็อาจจะไม่รู้เลยว่านำโทษมาให้แล้วค่ะ กับผู้พูดและกับบุคคลอื่นด้วย เพราะฉะนั้น ในเรื่องของกายในเรื่องของวาจา ถ้าเป็นผู้ที่เห็นโทษในความเป็นผู้ทุศีล จึงรักษาศีลหรือสำรวมกายและวาจาขึ้น เพราะเห็นโทษในกาม และในการครองเรือน จึงมีอัธยาศัยในเนกขัมมะ เพราะเห็นโทษในความไม่รู้และความสงสัย จึงมีอัธยาศัยในการรู้ตามความเป็นจริง คืออบรมเจริญปัญญา เพราะเห็นโทษในความเกรียจคร้าน จึงมีความเพียร เพราะเหตุโทษในความไม่อดทน จึงมีความอดทน เพราะเห็นโทษในการพูดผิด จึงมีอัธยาศัยในสัจจะ เพราะเหตุโทษในความไม่ตั้งใจมั่น จึงมีอัธยาศัยในความตั้งใจมั่น เพราะโทษในพยาบาท จึงมีอัธยาศัยในเมตตา เพราะเห็นโทษในโลกธรรม จึงมีอัธยาศัยในการวางเฉย นี้ก็เป็นบารมีทั้ง 10 นะค่ะ ซึ่งจะต้องค่อยๆ สะสมอบรมไป

ท่านที่มีความสนใจในเรื่องของบารมี จะศึกษาด้วยตนเองได้นะค่ะ ในปรมัตถทีปนี อรรถกถาขุททกนิกาย จริยปิฎก ซึ่งมีเรื่องของบารมีมาก ทั้งบารมี อุปบารมีและปรมัตถบารมี....


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
vikrom
วันที่ 21 ต.ค. 2552

ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูลเรื่อง บารมี 10

ขออนุโมทนาในความเมตตาด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
choonj
วันที่ 21 ต.ค. 2552

คนเรามีนิสัยแตกต่างกันตามการสั่งสม มีนิสัยอย่างไร ก็เคยสั่งสมอย่างนั้น ต่างๆ กันไปไม่เหมือนกันเลย ถ้าอยากรู้ว่าสั่งสมอะไรไว้บ้าง ก็ชอบอะไร หรืออะไรเกิดกับตัวมากก็เคยสั่งสมอย่างนั้นมามากในอดีต ที่นี้เมื่อเกิดมาเป็นคน ในชาติที่สามารถสั่งสมได้ก็เลือกสั่งสม ทาน ศีล ภาวนา เพราะเมื่อให้ผลก็จะเป็นสุข และถ้าไม่สั่งสมกุศลก็แน่นอน อกุศลสั่งสมแทน และถ้าเกิดในอบายก็หมดสิทธิในการที่จะสั่งสมกุศล ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 21 ต.ค. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 21 ต.ค. 2552

ปุถุชนสะสมทั้งความดีและความไม่ดี แต่อาศัยการฟังธรรมทำให้เห็นโทษของอกุศล เห็นประโยชน์ของกุศล และชาตินี้ได้เกิดเป็นมนุษย์ไม่ประมาทเจริญกุศลทุกอย่างค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
raynu.p
วันที่ 21 ต.ค. 2552
อนุโมทนาค่ะ สะสมความเข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธาตุทีละเล็กทีละน้อยค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Jans
วันที่ 21 ต.ค. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 22 ต.ค. 2552

สิ่งทีควรสะสมคือบุญ สมบัติของมนุษย์ ความยินดีในเทวโลก และ สมบัติคือพระนิพพานอันใด อิฐผลทั้งหมดนั้นอันบุคคลย่อมได้ ด้วยบุญนิธินี้

เชิญคลิกอ่าน....

ขุมทรัพย์คือบุญ [นิธิกัณฑ์ในขุททกปาฐะ]

บุญทีประกอบด้วยปัญญาเป็นบารมี

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
pornpaon
วันที่ 22 ต.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
เมตตา
วันที่ 22 ต.ค. 2552

สะสมความเข้าใจในพระธรรม เพื่อค่อยๆ ละความไม่รู้ ค่อยๆ ขัดเกลากิเลสที่มีอยู่มากมายในตัวเราซึ่งสะสมมานับภพชาติไม่ได้ และอบรมเจริญกุศลทุกประการ กุศลที่ประกอบด้วยปัญญาเพื่อขัดเกลากิเลสจริงๆ โดยไม่ได้หวังผลใดๆ ที่เป็นไปกับวัฏฏะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
ประสาน
วันที่ 23 ต.ค. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
saifon.p
วันที่ 23 ต.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
noynoi
วันที่ 23 ต.ค. 2552

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
wirat.k
วันที่ 23 ต.ค. 2552

.....สำหรับบารมีทั้ง 10 นี้ค่ะ มีโลภะเป็นปฏิปักษ์ เพราะฉะนั้น ต้องไม่ลืมเลยนะค่ะ ว่าการที่ท่านจะเจริญบารมีนั้น ไม่ใช่เพราะต้องการผลของกุศล แต่ต้องเป็นเพราะเห็นโทษของอกุศลแต่ละประเภท ......

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
hadezz
วันที่ 24 พ.ย. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
chatchai.k
วันที่ 18 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ