อยากเสียโลภะไปบ้างไหมค่ะ

 
shumporn.t
วันที่  22 ต.ค. 2552
หมายเลข  14037
อ่าน  1,059

ข้อความบางตอนจากการบรรยายธรรม

ท่านอาจารย์ ขอให้พิจารณาในชีวิตประจำวันจริงๆ นะค่ะ เริ่มจากความจริงที่ว่าอยากได้อะไรบ้าง ดูเหมือนว่าไม่มากสำหรับบางท่านนะค่ะ เพียงแต่ว่าดูเหมือน เพราะเหตุว่ายังไม่ละเอียด แต่ถ้าละเอียดนะค่ะ ตั้งแต่ตื่นมาก็ต้องการที่จะให้เนื้อตัวสะอาด ต้องมีอุปกรณ์ เครื่องที่จะทำให้สะอาดนะค่ะ ต้องมีใช่ไหมค่ะ ต้องอยากได้ สิ่งที่จะทำให้ร่างกายสะอาด และก็จะต้องเป็นสิ่งซึ่งพอใจเพราะเหตุว่า ถ้าเป็นสบู่ก็มีหลายชนิดนะค่ะและนอกจากเรื่องของร่างกายเนื้อตัวสะอาด ยังเป็นเรื่องผมเผ้า เรื่องเสื้อผ้าอาภรณ์ที่จะใส่ เรื่องเสียงที่จะได้ยิน เรื่องกลิ่นที่จะได้ เรื่องรสอาหารที่จะได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นในชีวิตนะค่ะ แต่ก็ยังไม่พอ เพราะเหตุว่า ยังต้องการสิ่งอื่นเพื่อความเพลิดเพลินอีก เพราะฉะนั้น ถ้าจะพิจารณาจริงๆ ในชีวิตในอดีตนานมาแล้ว จนกระทั่งถึงปัจจุบัน และต่อไปข้างหน้า ก็จะเห็นได้ว่าความจริงคืออย่างนี้นะค่ะ โดยที่ว่าทุกวันอยากได้ แต่ว่าไม่ใช่อยากเสีย มีใครอยากเสียอะไรบ้างไหมค่ะ ในวันหนึ่งๆ ลองคิดดูค่ะ อยากเสียโลภะไปบ้างไหมค่ะ....


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 22 ต.ค. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ups
วันที่ 22 ต.ค. 2552

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
pornpaon
วันที่ 22 ต.ค. 2552

ยังเป็นปุถุชนผู้รักและกอดเกี่ยวเหนียวแน่นกับโลภะไม่จืดจางทั้งวันอยู่เลยค่ะ

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
vikrom
วันที่ 23 ต.ค. 2552

โลภส่วนละเอียด........อันนี้ก็ชี้ให้รู้ว่าระยะเวลาในการขัดเกลากิเลสยังต้องใช้เวลาอีกนานแสนนานโดยไม่ต้องหวังผลอะไรๆ เลย และต้องไม่ประมาทและมองข้ามในเรื่องเล็กน้อย เพราะถ้าน้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมไปถึงที่สุดแล้ว ก็จะมีแต่เรื่องเล็กน้อยทั้งนั้น ขอขอบพระคุณที่เตือนสติและเกื้อกูลพระธรรมส่วนละเอียดครับ

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เมตตา
วันที่ 23 ต.ค. 2552

เป็นหัวข้อที่น่าสนทนาจริงๆ ค่ะ...เตือนให้รู้ว่ากิเลสยังมีอีกมากมาย การที่จะดับกิเลส ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ การที่จะดับกิเลสหมดสิ้นเป็นสมุจเฉท เป็นพระอรหันต์ ก็ไม่ต้องพูดถึงเลย แค่อบรมเจริญปัญญาละความเห็นผิดในสภาพธรรมว่าเป็นเพียงสภาพธรรม ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตนใดๆ ก็ยังอีกแสนไกลเกินเอื้อม..เพราะในชีวิตประจำวันก็ยังติดข้องพอใจ ต้องอยากได้รสอาหารอร่อย กลิ่นดีๆ เห็นสิ่งที่สวยงามพอใจ สัมผัสแต่สิ่งที่ดี และยังยินดีพอใจในเสียงโดยเฉพาะคำสรรเสริญเยินยอ... .ก็ยังไม่อยากเสียโลภะไปเลย... ยังเหนียวแน่นด้วยกิเลสจริงๆ ต้องกราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ที่ชี้ให้เห็นกิเลสที่มองเห็นได้ยากให้ได้เข้าใจ จะได้เป็นผู้ไม่ประมาท ค่อยๆ อบรมความเข้าใจในสภาพธรรมตามความเป็นจริงในชีวิตประจำวัน

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
saifon.p
วันที่ 23 ต.ค. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
noynoi
วันที่ 23 ต.ค. 2552

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
wannee.s
วันที่ 23 ต.ค. 2552

ตัณหาหรือโลภะเปรียบเหมือนเพื่อนสอง ผู้ที่จะละโลภะได้ต้องเป้นพระอรหันต์ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
wirat.k
วันที่ 23 ต.ค. 2552

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
chatchai.k
วันที่ 18 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ