จะละกามราคะ ปัญญาต้องรู้อะไรก่อน ขอคำตอบแบบภาษาชาวบ้าน
จะละกามราคะได้ เบื้องต้นปัญญาจะต้องรู้ว่าสิ่งที่ตนหลงติด หลงรักนั้น ไม่ใช่ของที่สวยงาม น่ารัก ความจริงผู้รู้ท่านเห็นตามความเป็นจริงว่า ไม่งาม ไม่สะอาด มีแต่ของเหม็นเน่าทั้งนั้น... เพียงเท่านี้คงยังไม่หายโง่หรอกครับ จะต้องศึกษาคำสอนของผู้รู้จนเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง จนปัญญามีกำลังคมกล้ามากขึ้น จึงจะหายโง่ คือดับกิเลสจนไม่มีเหลือครับ...
ขอเชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่ กามกำหนัด ระงับได้ด้วยอะไรครับ
ไม่ใช่ความพยายามที่จะติด หรือพยายามที่จะหลุด หมายถึง ทุกสิ่งอย่างมันไม่ยึดกัน
อยู่เอง เกิดเอง ดับเอง ไม่ต้องสาระวนไปเอง ปลงใจต่อความเป็นอนิจจัง
ขออนุโมทนา
ต้องมีสติ ระลึกอยู่เสมอในปัจจุบัน อารมณ์ของจิตอะไรกำลังเกิดขึ้น อะไรกำลังดับ
ตอนนี้มีอินทริย์ มีพละในองค์ธรรมนีี้เท่าไหน ในชีวิตประจำวัน ถามตนเอง
ถ้ายังเริ่มตรงนี้ก่อน
จะละกามราคะ ปัญญาต้องรู้อะไรก่อน
เป็นคำถามที่ดีมากเลยครับ โดยเฉพาะการใช้คำว่า ละ, ปัญญา, และ รู้ ซึ่ง
แสดงว่าท่านมีความเข้าใจจากการฟังท่านอาจารย์พอสมควร เพราะคนที่ไม่เข้าใจพระ
ธรรมส่วนใหญ่ จะใช้คำว่า อยาก, ต้องการ, หรือ ทำอย่างไร
การละกามราคะ ต้องละด้วยปัญญาครับ แต่ก่อนที่ปัญญาจะมีกำลังถึงขั้นละ
กามราคะ ปัญญาต้องมีกำลังจนดับความเห็นผิดก่อน ซึ่งการพัฒนาให้ปัญญาเจริญ
ขึ้นนั้น ต้องอาศัยการฟังธรรมะให้เข้าใจนั่นเองครับ
ผมขอขยายความนิดหนึ่ง หวังว่าคงไม่ยากจนเกินไปนะครับ คือการละกาม
ราคะนั้น เป็นปัญญาของท่านพระอนาคามีครับ ก่อนเป็นพระอนาคามี ก็จะต้องมี
ปัญญาของพระโสดาบันก่อน นั่นคือต้องมีปัญญาที่ละความเห็นผิดก่อน และปัญญาที่
จะละความเห็นผิดนั้น ต้องรู้ธรรมะตรงตามความเป็นจริง ซึ่งสอดคล้องกับคำบรรยาย
พระธรรมที่เราควรฟังอยู่เสมอครับ
ขอร่วมแสดงความเห็นครับ
จะละกามราคะ ปัญญาจะต้องรู้ความจริงที่กำลังปรากฏขณะนี้
แล้วปัญญาจะค่อยๆ เจริญขึ้น รู้ชัดขึ้นประจักษ์แจ้งสิ่งที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง
ตรงตามที่ทรงแสดงไว้ ขณะที่ปัญญาที่ค่อยๆ เจริญขึ้น ก็เป็นการค่อยๆ ละคลายความไม่รู้ที่ละน้อย ก็จะเห็นโทษ เห็นภัย และละคลายอกุศลทีละน้อย จนกระทั่งประจักษ์แจ้งพระนิพพาน เป็นพระอริยะบุคคลและดับกิเลสตามลำดับ