น้ำอัฎฐบาน

 
opanayigo
วันที่  5 พ.ย. 2552
หมายเลข  14157
อ่าน  10,850

พระวินัยปิฎก มหาวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ หน้าที่ ๑๕๒

พระพุทธานุญาตน้ำอัฏฐบาน

ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทำธรรมีกถา ในเพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้นในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วตรัสอนุญาตแก่ภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเราอนุญาตน้ำปานะ ๘ ชนิดคือ น้ำปานะทำด้วยผลมะม่วง ๑ น้ำปานะทำด้วยผลหว้า ๑ น้ำปานะทำด้วยผลกล้วยมีเมล็ด ๑ น้ำปานะทำด้วยผลกล้วยไม่มีเมล็ด ๑ น้ำปานะทำด้วยผลมะซาง ๑ น้ำปานะทำด้วยผลจันทน์หรือองุ่น ๑ น้ำปานะทำด้วยเง่าบัว ๑ น้ำปานะทำด้วยผลมะปรางหรือลิ้นจี่ ๑

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตน้ำผลไม้ทุกชนิด เว้นน้ำต้มเมล็ดข้าวเปลือก

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตน้ำใบไม้ทุกชนิด เว้นน้ำผักดอง

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตน้ำดอกไม้ทุกชนิด เว้นน้ำดอกมะซาง

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตน้ำอ้อยสด

คำอธิบายจากอรรถกถา

สาลุกปานะนั้น ได้แก่น้ำปานะที่เขาคั้นเง่าอุบลแดงและอุบลเขียวเป็นต้นทำ

ผารุสกปานะ นั้น ได้แก่ น้ำปานะที่ทำด้วยผลมะปราง อย่างอัมพปานะ อัฏฐบานเหล่านี้ เย็นก็ดี สุกด้วยแสงอาทิตย์ก็ดี ย่อมควร สุกด้วยไฟไม่ควร

ด้วยพระบาลีว่า ฐเปตฺวา ธญฺญผลรสํ นี้ ธัญญชาติ ๗ ชนิดเป็นอันห้ามแล้วว่า ไม่ควรในปัจฉาภัต

มหาผล ๙ อย่างคือ ผลตาล ผลมะพร้าว ผลขนุน ผลสาเก น้ำเต้า ฟักเขียว แตงไท แตงโม ฟักทองเป็นอันทรงห้าม และอปรัณณชาติทุกชนิด มีคติอย่างธัญญชาติเหมือนกัน มหาผลและอปรัณณชาตินั้น ไม่ได้ทรงห้ามไว้ก็จริง ถึงกระนั้น ย่อมเข้ากับสิ่งที่เป็นอกัปปิยะ เพราะเหตุนั้น จึงไม่ควรในปัจฉาภัต

น้ำปานะ ๘ อย่างทรงอนุญาตไว้ น้ำปานะแห่งผลไม้เล็กมี หวายมะชาม มะงั่ว มะขวิด สะคร้อ และเล็บเหยี่ยว เป็นต้น มีคติอย่างอฏัฐบานแท้ น้ำปานะแห่งผลไม้เหล่านั้น ไม่ได้ทรงอนุญาตไว้ก็จริง ถึงกระนั้น ย่อมเข้ากับสิ่งที่เป็นกัปปิยะ เพราะฉะนั้น จึงควรในกุรุนทีแก้ว่า จริงอยู่ เว้นรสแห่งเมล็ดข้าวกับทั้งสิ่งที่อนุโลมเสียแล้ว ขึ้นชื่อว่าน้ำผลไม้อื่น ที่ไม่ควร ย่อมไม่มี น้ำผลไม้ทุกชนิดเป็นยามกาลิกแท้


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
pdoun
วันที่ 11 พ.ย. 2552

สาธุค่ะ แต่ในปัจจุบัน เห็นการถวายน้ำปานะ แก่พระภิกษุผิดไปจากนี้อยู่มากทีเดียวและทำกันจนคิดว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องไปแล้วจะแก้ไขประการใดดี เช่น กลางคืนก่อนที่พระจะสวดศพ จะต้องมีการถวายโอวัลตินซึ่งชงด้วยนมข้นหวาน หรือไม่ก็ไวตามิลค์ อยากทราบว่าถูกต้องหรือไม่

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
prachern.s
วันที่ 11 พ.ย. 2552

เรียนความเห็นที่ ๑

เครื่องดื่มดังกล่าว ไม่ใช่น้ำปานะ แต่มันเป็นอาหาร ถวายพระภิกษุได้บางเวลา คือ เมื่ออรุณขึ้นแล้ว จนถึงเที่ยงวันเท่านั้น หลังเที่ยงวันเป็นเวลาวิกาล ควรถวายน้ำปานะ หรือน้ำเปล่าดีกว่าครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
bauloy
วันที่ 17 ก.พ. 2553

ขออนุโมทนาครับ....

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Komsan
วันที่ 21 พ.ค. 2555

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
peem
วันที่ 7 เม.ย. 2559

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 13 มิ.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ