ผมมีความเห็นผิดในธรรมอะไรจึงติดในกามราคะมากจัง
เพราะเห็นคลาดเคลื่อนจากความจริงว่า งาม ในสิ่งที่ ไม่งาม กามราคะจึงเกิดขึ้น บุคคลที่ยังละกามราคะไม่ได้เมื่อเจริญอสุภะเนื่องๆ ย่อมละกามราคะได้ชั่วคราว เมื่ออนาคามิมรรคเกิดขึ้น ญาณของท่านย่อมละกามราคะเป็นสมุจเฉท ไม่เกิดขึ้นอีกเลย สำหรับผู้ที่อบรมเจริญสติปัฏฐาน
แม้ว่าจะยังไม่ดับกามราคะได้ แต่จะค่อยๆ รู้จักกามราคะตามความเป็นจริง
ว่าเป็นธรรมะอย่าง ไม่ใช่เรา ย่อมจะค่อยๆ ขัดเกลากิเลสอกุศลธรรมลงได้ครับ
ผมเห็นว่าเรามีความเห็นผิดที่ละเอียด
แม้เสียงที่ปรากฎแล้วยังไม่ยอมให้เป็นแค่เสียง (ไม่มีการรู้ลักษณะที่แท้จริง)
การเป็นผู้มีสมาธิ มีความละเอียดที่จะพิจารณาในสิ่งที่กำลังปรากฎ เป็นสิ่งสำคัญ
ความจริงจะปรากฎเมื่อเราเริ่มพิจารณาในสิ่งที่ปรากฎแต่ละขณะ ในสิ่งที่มีแต่ละขณะ
ขออนุโมทนา
การเห็นที่ถูกต้องคือรู้ตามความเป็นจริงว่า ขณะใดเป็นของจริง ขณะใดเป็น
เพียงความคิด เช่นขณะที่เห็นนั้น สั้นแสนสั้น เพียงขณะที่เห็นสิ่งที่ปรากฎทางตาเท่า
นั้น แต่หลังจากนั้นก็มีความคิด เป็นจินตนาการเป็นเรื่องราวมากมาย เช่นเป็นคน เป็น
หญิง และน่าพึงพอใจ แล้วก็มีการได้ยินแล้วก็คิด ได้กลิ่นแล้วก็คิด ลิ้มรสแล้วก็คิด
ถูกต้องสัมผัสแล้วก็คิด จึงมีการติดข้องในความคิดของตัวเอง แม้แต่ในขณะที่ สี
เสียง กลิ่น รส และสัมผัสเหล่านั้น ไม่ได้กำลังปรากฎ แต่ก็ยังมีความคิด หรือการคิด
ถึง อันหมกมุ่นไปในเรื่องราวเหล่านั้นได้
การจะเห็นถูกอย่างนี้ได้ ต้องอาศัยการศึกษา ด้วยการฟัง การอ่าน และการ
สนทนา เพื่อให้เข้าใจว่าความจริงเป็นเช่นไร และความเข้าใจนี้เองจะค่อยๆ นำไปสู่
การระลึกเพื่อรู้หรือเพื่อความเห็นที่ถูกต้องครับ
ธรรม ๖ ประการ ย่อมเป็นไปเพื่อละกามฉันท์ คือ ๑.การถืออสุภนิมิตเป็นอารมณ์ ๒. การประกอบเนืองๆ ซึ่งอสุภภาวนา ๓. การรักษาทวารในอินทรีย์ทั้งหลาย ๔. ความรู้จักประมาณในโภชนะ ๕. ความมีกัลยาณมิตร ๖. พูดแต่เรื่องที่เป็นสัปปายะ (เป็นที่สบาย) เชิญคลิกอ่าน....
เหตุและธรรมสำหรับละกามฉันท์