ได้ยินแล้วคิด_20
ขอนอบน้อมแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ได้ยิน ท่าน อ สุจินต์ เคยแสดง"เด็กกำพร้า...กับผู้ใหญ่ใจดี..."
ได้ยินแล้วคิด...
ใคร...และท่านผู้ใด...ขณะใด...อย่างไร
ขออนุโมทนาในกุศลจิตทุกๆ ท่านค่ะ
"เด็กกำพร้า...กับผู้ใหญ่ใจดี..."
เด็กกำพร้า... แท้ที่จริงก็คือปุถุชนผู้ไม่ได้ฟังพระสัทธรรม ยามเจ็บไข้ได้ป่วยก็
ไม่มีใครเหลียวดูแล เป็นโรคเรื้อรัง โรคเรื้อน โรคจรและยังเป็นโรคที่เกิดในชีวิต
ประจำวันอีกนั่นคือ โรคโลภะ โรคโทสะ โรคโมหะ โรคทิฏฐิ โรคมานะ...สารพัด
โรค หากมีโอกาสได้พบผู้ใหญ่ใจดีคอยเอาใจใส่ อ่านสลากยาได้ จ่ายยาให้ถูก
โรค เด็กกำพร้าก็จะไม่กำพร้าอีกต่อไป ได้ยาถูกกับโรค โรคต่างๆ ก็จะค่อยๆ
ทุเลาลง ผู้ใหญ่ใจดีนั้นคือ ผู้ที่มีปัญญาเข้าใจพระธรรมได้อย่างถ่องแท้ถูกต้อง
เปรียบกับการอ่านสลากยาได้ จ่ายยาให้ถูกกับโรค ส่วนโรคต่างๆ นั้นคือ กิเลส
ที่ต้องค่อยๆ รักษาให้หายได้ด้วยพระธรรมเท่านั้น ถ้าปราศจากพระธรรมแล้ว และ
ไม่มีผู้ใหญ่ใจดีคอยจ่ายยาให้ เด็กกำพร้าก็ไม่มีโอกาสหายจากโรคได้...สะสมเป็น
โรคเรื้อรังยิ่งขึ้นไป กิเลสที่สะสมพอกมากขึ้นๆ วนเวียนอยู่ในวัฏฏะสงสาร...
ขออนุโมทนาค่ะ
เด็กกำพร้ามีอยู่มากมาย นอกจากกำพร้าแล้วยังมีโรครุมเร้า ไร้แรงที่จะต่อสู้กิเลสที่เข้ามากลุ้มรุมทั้ง ๖ ทาง บางคนบุญเก่าดี ได้พบผู้ใหญ่ใจดี มีเมตตาพยายามช่วยรักษาเยียวยา ก็เพียงแค่ทุเลาบางขณะเท่านั้น
.....ก็ผู้ใด ถูกความเจ็บป่วย คือ กิเลส บีบคั้นหนัก ไม่แสวงหาศาสดาผู้ฉลาดในทางระงับกิเลสซึ่งมีอยู่ ก็เป็นความผิดของบุรุษนั้นผู้เดียว ไม่ใช่ความผิดของศาสดาผู้ขจัดความเจ็บป่วย คือ กิเลส ก็ฉันนั้นเหมือนกัน.....