ความสำคัญของผัสสเจตสิก
พระสุวรรณบรรพต (ภูเขาทอง) ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศอินเดียณ วัดสระเกศฯ กรุงเทพมหานคร
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ถ้าตราบใดยังขาดการฟังหรือว่า การเข้าใจถึงความละเอียดของสภาพธรรม แม้สติปัฏฐานจะเกิดบ้าง แต่ ปัญญา ก็ยังไม่คมกล้าพอที่จะเป็นปัจจัยให้เกิดการละความยึดถือสภาพธรรม ที่กำลังเกิดปรากฏ ว่า เป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตัวตนได้ อะไรเป็น "ปัจจัย" ที่ทำให้ปัญญาคมกล้าขึ้น
เพราะเหตุว่า สติปัฏฐานก็ไม่มีปัจจัยที่จะเกิดบ่อย เท่ากับอวิชชา หรือ อกุศลกรรม ซึ่งสะสมพอกพูนมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้น ทางเดียว คือ ฟังพระธรรมโดยละเอียดยิ่งขึ้น เพื่อเป็น "ปัจจัยปรุงแต่ง" ให้เป็น "สังขารขันธ์"
ขณะที่มีปัจจัยให้สติปัฏฐานเกิดขึ้นคือ สติระลึก ตรงลักษณะของสภาพนามธรรมใด หรือ รูปธรรมใดความเข้าใจใน "ลักษณะที่เป็นอนัตตา"โดยละเอียดยิ่งขึ้นในสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ในขณะนั้นๆ นั่นเองที่จะเกื้อกูล และเป็น "ปัจจัย" ทำให้ปัญญาคมกล้าขึ้นเพราะเหตุว่า มี (ปัญญา) ความรู้-ความเข้าใจจริงๆ ว่าสภาพนั้นๆ ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตนอย่างไรตามที่ได้ยินได้ฟังเรื่องของสภาพธรรมโดยละเอียด
เพราะฉะนั้น ท่านผู้ฟัง ควรที่จะศึกษาเรื่องของสภาพธรรมที่เป็น จิตปรมัตถ์ เจตสิกปรมัตถ์ รูปปรมัตถ์ โดยละเอียดยิ่งขึ้น ซึ่งท่านผู้ฟังจะเห็นได้ว่า แม้จะกล่าวถึงสภาพธรรมหนึ่งสภาพธรรมใดเพียงสภาพธรรมเดียว เช่น ผัสสเจตสิกก็รวมไปถึงจิตทุกประเภท (และรูปทุกประเภท) ได้ เพราะเหตุว่า "ผัสสเจตสิก" เกิดกับจิตทุกประเภทและเกิดกับเจตสิกทุกประเภท และยังรวมไปถึง รูปทุกประเภทด้วยเพราะว่า เมื่อผัสสเจตสิก เกิดกับจิตและเจตสิกประเภทใดประเภทหนึ่งแล้วก็เป็นปัจจัยให้รูป สามารถที่จะเกิดขึ้นได้ด้วย
ข้อความบางตอนจากเทปชุด ปัฏฐาน (ปัจจัย ๒๔) ตอนที่ ๒
โดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ขออนุโมทนา
พระสถูปที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุณ พระสุวรรณบรรพต วัดสระเกศฯ กรุงเทพมหานครฯ