ประวัติพระพุทธศาสนาของศรีลังกา (ตอน ๓)
เมื่อพระเจ้าเทวนัมปิยดิสซึ่งเป็นกษัตริย์ของศรีลังกาได้สนทนากับพระมหินเถระที่ มาที่ประเทศศรีลังกาเพื่อประกาศพระศาสนาที่นี่ ได้สนทนากันแล้ว พระเถระได้แสดง ธรรมให้พระราชาและข้าราชบริพารประมาณสี่หมื่นให้ตั้งอยู่ในไตรสรณคมณ์ ต่อมาได้ ให้มีประกาศการฟังธรรม หมู่มหาชนได้ประชุมกันแล้ว พระเถระ เมื่อจะให้ฝนรัตนะ คือพระธรรมตกแก่พระราชาพร้อมทั้งชนบริวาร จึงได้แสดงเปตวัตถุ วิมานวัตถุ และ สัจจสังยุต.สตรีทั้ง ๕๐๐ เหล่านั้น พระเถระได้ไปนั่งแสดงเทวทูตสูตรในที่นั้น. ใน เวลาจบกถา คนประมาณหนึ่งพัน ได้ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล. พระเถระ (ไป) นั่งแสดงอาสิวิโสปมสูตร ในอุทยานนันทวันนั้น. เพราะฟังอาสิวิโสปมสูตรแม้นั้น คน ประมาณพันหนึ่งได้โสดาปัตติผล.ในวันที่สองแต่วันที่พระเถระมาแล้ว ธรรมาภิสมัย (การตรัสรู้ธรรม การบรรลุธรรม) ได้มีแก่คนประมาณ ๒,๕๐๐ คน. พระราชาได้ถวาย พระอุทยานนันทวันเป็นวิหารสำหรับภิกษุสงฆ์ แผ่นดินได้ไหวอันเป็นนิมิตว่าพระพุทธ ศาสนาได้ประดิษฐานตั้งมั่น ณ ประเทศศรีลังกาแล้ว พระเถระแสดงธรรมต่อไปจนถึง วันที่ 7 มีผู้บรรลุอีก แปดพันห้าร้อย และอำมาตย์พร้อมบริวารได้ขอพระราชาบวช เมื่อ บวชก็บรรลุเป็นพระอรหันต์ในวันนั้นทีเดียว
พระพุทธเจ้าทรงเห็นว่าศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองที่ประเทศศรีลังกา เพราะมีบุคคลที่สามารถฟังธรรมแล้วบรรลุได้ การอบรมเจริญปัญญาจึงไม่ได้จำกัดสถานที่หรือ เวลา หากแต่ว่าเมื่อเหตุปัจจัยพร้อมคือ ปัญญาพร้อมที่จะเกิดเมื่อได้ยินได้ฟังในหนทาง ที่ถูก ปัญญาก็สามารถเกิดระลึกลักษณะของสภาพธรรมที่มีในขณะนี้ว่าเป็นธรรมไม่ใช่ เราได้ ซึ่งในตอนต่อไปจะได้ขอกล่าวถึงในเรื่องที่พระเถระได้แนะนำให้พระราชาให้สิ่ง ที่บูชาในเกาะศรีลังกา นั่นก็คือพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งจะมีการอันเชิญมาจากสวรรค์ชั้น ดาวดึงส์ ซึ่งเป็นสิ่งน่าสนใจทีเดียว