อินเดีย ... อีกแล้ว 10 ต้นพระศรีมหาโพธิ์
ต้นพระศรีมหาโพธิ์
ทุกครั้งที่มานมัสการสังเวชนียสถาน ณ ประเทศอินเดีย เมื่อมาถึงพุทธคยา ต้องมานั่ง ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ เพื่อเจริญพุทธานุสสติ ตามกำลังสติปัญญาของตนว่า พระผู้มี พระภาคทรงตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง ทรงมีพระปัญญาคุณยิ่งกว่ามนุษย์ทั้งหลาย ทรงจำแนกสภาพธรรมทั้งหมดในโลกออกเป็น ๒ อย่าง คือ นามธรรมและรูปธรรม โดย
นามธรรมเป็นสภาพรู้ รูปธรรมเป็นสภาพธรรมที่ไม่ใช่สภาพรู้ และนามธรรมก็ยังแบ่งออก เป็นจิต สภาพธรรมที่เป็นใหญ่ในการรู้สิ่งที่ปรากฏ เจตสิก สภาพธรรมที่เกิดพร้อม จิต ดับพร้อมจิต รู้อารมณ์เดียวกับจิต มีลักษณะและกิจต่างกันตามประเภทของเจตสิก นั้นๆ บางครั้งได้เจริญเมตตากับเพื่อนร่วมโลกที่มานมัสการพระศรีมหาโพธิ์ด้วยกัน และ ทุกครั้งได้เจริญปัญญา ด้วยการฟังธรรมและร่วมสนทนาธรรม ทำให้มีความเข้าใจพระ ธรรมมากขึ้น ดังนั้นจึงควรรู้ความเป็นมาของต้นพระศรีมหาโพธิ์บ้าง
ได้ค้นข้อมูลจาก
www.worldbuddhism.net/buddhap ... -bodhitree.htm
มีความดังนี้
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นปัจจุบันนี้ ไม่ใช่ต้นเดิมตั้งแต่ครั้งพุทธกาล แต่เป็นต้นที่ ๔ ซึ่ง แตกหน่อมาจากต้นเดิม เนื่องจากต้นโพธิ์ถูกทำลายหลายครั้งจากพวกมิจฉาทิฏฐิ และ คนนอกศาสนา ประวัติของต้นโพธิ์ทั้ง ๔ มีดังนี้
ต้นโพธิ์ต้นแรก เป็นสหชาติ เกิดขึ้นในวันที่พระโพธิสัตว์ประสูติ ตามพุทธประวัติ กล่าวว่า สหชาติ มี ๗ ประการ คือ กาฬุทายีอำมาตย์, นายฉันนะ, อานนท์พุทธอนุชา, พระนางพิมพา, ม้ากัณฑกะ, ขุมทรัพย์ ๔ มุมเมือง, ต้นอัสสัตถะพฤกษ์ (ต้นโพธิ์) ต้น โพธิ์ต้นนี้มีอายุมาจนถึงสมัยพุทธศตวรรษที่ ๒ พระเจ้าอโศกมหาราช กษัตริย์ชาวพุทธ ผู้ยิ่งใหญ่ ทรงเคารพรักต้นโพธิ์เป็นอย่างยิ่ง จะเสด็จไปนมัสการต้นโพธิ์ทุกเช้าเย็น พระมเหสีของพระเจ้าอโศกมหาราช คือ พระนางติษยรักษิต ไม่พอพระทัยที่พระเจ้า อโศกเอาใจใส่ต้นโพธิ์มากเกินไป จึงได้ให้คนใส่ยาพิษเพื่อทำลายต้นโพธิ์ บาง แห่งบอกว่า พระนางเอาเงี่ยงกระเบนมีพิษมาทิ่มรากต้นโพธิ์จนต้นโพธิ์ตาย เมื่อพระเจ้า อโศกทรงทราบ ถึงกับทรงวิสัญญีภาพ ล้มสลบลง เสียพระทัยเป็นอย่างยิ่ง ให้คนนำน้ำ นมโคมารดต้นโพธิ์ทุกวัน และพระองค์เองก็ทรงคุกเข่าที่ต้นโพธิ์นี้ พร้อมกับตั้ง สัตยาธิษฐานขอให้มีหน่องอก ก็เกิดอัศจรรย์มีหน่อโพธิ์งอกขึ้นมา พระองค์ได้นำมา ปลูกเป็นต้นที่ ๒ ต้นโพธิ์ต้นแรกมีอายุได้ ๓๔๒ ปี
ต้นโพธิ์ต้นที่ ๒ มีอายุยืนมาจนกระทั่งกษัตริย์นามว่า ศศางกา ได้มาพบต้นพระศรีมหา โพธิ์ ก็ไม่พอพระทัย เนื่องจากพระองค์นับถือฮินดู จึงได้ให้คนทำลายต้นพระศรีมหา โพธิ์ และทำลายพระพุทธรูปในวิหารทั้งหมด แต่อำมาตย์ชาวพุทธไม่กล้าทำลายพระ พุทธรูป จึงได้ใช้วิธีเอาปูนโบกทับเพื่อปิดไว้เฉยๆ ภายหลังพระเจ้าศศางกาได้รับผล กรรม เกิดแผลพุพองทั่วร่าง และสิ้นพระชนม์อย่างอนาถ ต้นโพธิ์ต้นที่ ๒ มีอายุ ๘๗๑ ปี
หลังจากนั้นไม่นาน พระเจ้าปูรณวรมา กษัตริย์ชาวพุทธ ได้มาพบเห็นต้นพระศรีมหา โพธิ์ล้มเช่นนั้น ก็เสียพระทัย แต่ให้คนค้นหาหน่อพระศรีมหาโพธิ์ ก็พบหน่อโพธิ์ขึ้นที่ ใต้ต้นโพธิ์ จึงให้มีการปลูกขึ้นใหม่ และสร้างรั้วล้อมป้องกันไว้อย่างแน่นหนา ต้นโพธิ์ ต้นที่ ๓ นี้มีอายุยืนนานมาก ถึง ๑๒๕๘ ปี ก็ล้มไปตามกาลเวลา
ในปี ๒๔๔๓ เซอร์อเล็กซานเดอร์ คันนิ่งแฮม นักโบราณคดีชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นผู้มี คุณูปการต่อพระพุทธศาสนามาก ได้ขุดค้นพบพุทธสถานหลายแห่ง จนทำให้พระพุทธ ศาสนาเป็นที่รู้จักของชาวอินเดีย หลังจากลืมเลือนไปแล้วกว่า ๘๐๐ ปี ได้เดินทางไป ที่พุทธคยา พบต้นพระศรีมหาโพธิ์ล้มอยู่ แต่ได้พบหน่อโพธิ์งอกอยู่ที่ใต้ต้นเดิม ๒ หน่อ หน่อหนึ่งสูง ๖ นิ้ว ได้ปลูกไว้ที่บริเวณต้นเดิม อีกหน่อหนึ่ง สูง ๔ นิ้ว แยกไปปลูกทาง ด้านทิศเหนือ ห่างกัน ๒๕๐ ฟุต ต้นโพธิ์ต้นที่ ๔ มีอายุนับจากเริ่มปลูก ปี ๒๔๔๓ ถึง ปัจจุบัน ๑๐๙ ปี (ข้อความในเว็บไซต์บอกว่า ๑๓๐ ปี แต่เมื่อบวกลบแล้ว ควรเป็น ๑๐๙ ปี)
แม้ต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็นรูปที่ไม่มีใจครอง เป็นสหชาติกับพระผู้มีพระภาค ก็ต้อง ตกอยู่ ภายใต้ไตรลักษณ์เช่นกัน มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปในที่สุด แสดงให้เห็นถึงความ ไม่เที่ยงของสังขารทั้งหลาย ซึ่งเป็นการพิสูจน์คำสอนของพระผู้มีพระภาคว่าเป็นความ จริงแท้ ไม่มีข้อยกเว้น แม้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นปัจจุบันจะไม่ใช่ต้นแรกที่พระองค์ทรง ประทับนั่งตรัสรู้ แต่ก็เป็นตัวแทนในการตรัสรู้ของพระองค์ เป็นอนุสสติให้ระลึกได้ว่า พระพุทธเจ้าและพระธรรมเกิดขึ้นแล้วในโลก ณ ที่นี้ และข้อความในพระไตรปิฎกยัง แสดงว่า พระพุทธเจ้าทุกพระองค์จะประทับตรัสรู้ใต้ต้นโพธิ์ ณ ที่นี้ เช่นเดียวกับสถาน อื่นอีก ๓ แห่งที่จะเป็นที่เดิมตลอดไป คือ สถานที่ทรงแสดงปฐมเทศนา สถานที่เสด็จ ลงจากดาวดึงส์หลังจากทรงโปรดพุทธมารดา และที่ตั้งขา ๔ ขาของแท่นพระบรรทม ในพระคันธกุฎีที่พระเชตวัน และบางแห่งแสดงรวมถึงสถานที่ปรินิพพานด้วย