ธรรมที่เป็นไปเพื่อความเสื่อม
ควรทราบว่าพระเสขะจากข้อความในพระสูตรที่ท่านยกมา หมายเฉพาะ พระอริยบุคคล
ซึ่งยังไม่ถึงความเป็นพระอรหันต์เท่านั้น ซึ่งท่านเหล่านั้นยังมีกิจที่จะต้องกระทำ คือ
ศึกษาพระธรรม เจริญสติปัฏฐานเพื่อการดับกิเลสตามลำดับทั้งหมด จนกว่าจะบรรลุถึง
ความเป็นพระอรหันต์ด้วยความไม่ประมาท ซึ่งกิจธุระของพระภิกษุในพระพุทธศาสนา
จริงๆ นั้น มีเพียง ๒ คือ คันถธุระ และ วิปัสสนาธุระ ขณะที่ท่านยินดีในการงานอื่นๆ ที่
ไม่ใช่ธุระที่ควรกระทำในเพศบรรพชิต และไม่ได้เป็นไปเพื่อการเจริญขึ้นของปัญญา
ขณะนั้นท่านก็กำลังประมาทด้วยอำนาจของอกุศล ความประมาทของท่านจะเป็นเครื่อง
เนิ่นช้าไม่ให้ท่านได้เจริญคุณธรรมเบื้องสูงขึ้นไป พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง
เพื่อเกื้อกูลอุปการะให้ท่านพระเสขะทั้งหลายไม่ตั้งอยู่บนความประมาท สำหรับปุถุชน
ในพระสูตรนี้ ท่านใช้คำว่า ไม่มีอะไรที่จะต้องพูดถึงเลย เพราะเหตุว่า ปุถุชนเป็นผู้ที่
ประมาทด้วยกำลังของกิเลสอย่างมาก ยังไม่เป็นผู้เที่ยงเพื่อการตรัสรู้ ยังไม่ใช่ผู้ที่จะ
ถึงที่สุดของพรหมจรรย์ ยังไม่ใช่พระอรหันต์ผู้ซึ่งพ้นจากความเสื่อมทุกประการ
ขอเชิญคลิกอ่าน >>>พระเสกขบุคคลต้องอบรมเจริญปัญญาต่อไปอีก