อธิปติปัจจัย [๒]
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การเจริญสติปัฏฐาน ไม่ใช่ การเพ่งจ้อง และ อยากจะให้ประจักษ์ความเกิดดับของสภาพธรรมโดยที่ไม่ได้ระลึก ตรงลักษณะของสภาพธรรมตามปกติ ตามความเป็นจริง ในชีวิตประจำวัน
เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นกุศลกรรม หรือ อกุศลกรรม ก็ตามขณะที่ท่านมี "ฉันทะ" ที่จะกระทำกุศลกรรมประเภทหนึ่งประเภทใดในชีวิตประจำวันของท่าน ก็ขอให้สังเกต และ พิจารณาในขณะที่กำลังบำเพ็ญกุศลธรรม ของแต่ละท่านว่า ท่านมี "ฉันทะ" ความพอใจที่จะกระทำกุศล อย่างไร แม้แต่ในเรื่องของทานกุศล แต่ละท่านก็มีฉันทะต่างๆ กันและบางครั้ง ก็ต้องมี "วิริยะ" เป็นปัจจัย จึงจะทำสำเร็จ เช่น บางขณะ แม้มี ฉันทะ ก็จริง แต่หากฉันทะ ไม่มีกำลังพอที่จะให้การกระทำทานกุศลนั้นๆ ให้สำเร็จได้ก็ต้องอาศัยวิริยะเป็นปัจจัย คือ เป็นหัวหน้า เป็นอธิปติปัจจัยการกระทำทานกุศล ในขณะนั้นๆ จึงจะสำเร็จได้
เพราะฉะนั้น ถ้าสติเกิดขึ้นระลึกได้ในขณะนั้นจะเห็น "ลักษณะที่เป็นอธิปติ" ที่เป็นปัจจัยของกุศลจิตในขณะนั้นคือ ระลึกตรงลักษณะของสภาพธรรมที่เป็น "อธิปติปัจจัย" ในขณะนั้น นี่เป็นฝ่ายกุศล และ ฝ่ายอกุศล ก็เช่นเดียวกัน ขณะที่ระลึกได้ ว่าท่านมีฉันทะขณะใด หรือว่า อาศัยวิริยะขณะใด ในขณะที่ท่านกำลังทำกิจการงานต่างๆ ในชีวิตประจำวัน
ซึ่งทุกคนมีอาชีพประจำอยู่ มีกิจการงานที่จะต้องกระทำอยู่ ควรพิจารณาว่า ขณะนั้น จิต เป็นกุศล หรือ อกุศลนี่คือสิ่งที่จะต้องรู้ก่อน ถ้าเป็น อกุศลจิต หมายความว่า ขณะนั้น มีฉันทะ หรือ วิริยะ เป็นอธิปดี
สำหรับการงานอาชีพ ซึ่งไม่ได้เป็นไปในเรื่องของกุศล คือ ไม่เป็นไปในทาน ไม่เป็นไปในศีล ไม่เป็นไปในสมถภาวนา และ ไม่เป็นไปในการเจริญสติปัฏฐาน หมายความว่า ขณะนั้น ไม่มี "ปัญญา" เป็นอธิปดี แน่นอน เพราะเหตุว่า ปัญญาไม่เกิดกับอกุศลจิต หรือแม้ กุศลจิต ซึ่งเป็น ญาณวิปยุตต์ คือ ขณะที่เป็นุศลจิตที่ไม่ประกอบด้วยปัญญาก็จะมีเพียง ฉันทะ หรือ วิริยะ เป็นอธิปดีแต่จะไม่มีวิมังสะ คือ ปัญญา เป็นอธิปดี
เพราะฉะนั้น ก็เป็นเรื่องละเอียดในชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคลซึ่งจะได้เห็น "ความเป็นปัจจัย" แม้เพียงชั่วขณะจิตที่เกิดขึ้น และถ้าพิจารณาจริงๆ ก็จะรู้ว่าขณะที่กระทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวันนั้นขณะนั้น ประกอบด้วยเจตสิกอะไร หรือ เป็นปัจจัยอะไร เช่น โลภะ เป็น เหตุปัจจัย ไม่เป็น อธิปติปัจจัย ฉันทะ เป็นอธิปดี หรือ เป็นอธิปติปัจจัย แต่ ไม่ใช่เหตุปัจจัย ผัสสะ ไม่ใช่เหตุปัจจัย ไม่ใช่อธิปติปัจจัย แต่ ผัสสะ เป็น อาหารปัจจัย ฯลฯ
ข้อความบางตอนจากเทปชุด ปัฏฐาน (ปัจจัย ๒๔) ตอนที่ ๓
โดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ขออนุโมทนา