อารัมมณาธิปติปัจจัย [๒]
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ท่านผู้ฟังชอบกุศลจิตใช่ไหม จริงๆ แล้วนะคะ ต้องหยั่งลงไปถึง "ใจจริง" เพราะเหตุว่า บางทีฟังชื่อดู ก็น่าชอบกุศลจิต น่าที่จะปรารถนา แต่ลึกลงไปจริงๆ จะชอบสักแค่ไหน แต่ว่าโดยทั่วไป ขณะที่ปรารถนาที่จะมีจิตที่ดีงามขณะใดขณะนั้น เป็นกุศลประเภทที่เป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยของกุศลจิตก็ได้ หรือของโลภมูลจิตก็ได้ โลภมูลจิต กล่าวได้เลยว่า หนีไม่พ้น แม้แต่จะเป็นเรื่องของกุศล เพราะ "อารมณ์ที่เป็นกุศล" ขึ้นอยู่กับ "โยนิโสมนสิการ" ว่า อารมณ์ที่เป็นกุศลนั้น เป็นอารมณ์ของกุศลจิตหรือว่าเป็นอารมณ์ของโลภมูลจิต ต้องเป็นผู้ที่ตรงจริงๆ ถ้าไม่ตรงเพียงนิดเดียว หรือว่า เข้าใจผิด แทนที่ว่ากุศลจะเจริญ อกุศลเจริญแล้วโดยไม่รู้ตัว
เพราะฉะนั้น การที่จะรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริงได้ ก็ต้องพร้อมด้วยสติสัมปชัญญะ จึงจะสามารถรู้ได้ว่าขณะที่กำลังนึกถึง คิดถึงกุศลประเภทหนึ่งประเภทใด ขณะนั้นเป็นจิตที่เป็นกุศลหรือว่าเป็นโลภมูลจิต
กุศลจิต เป็นอารมณ์ของกุศลจิตได้ เช่น ขณะที่นึกถึงกุศล แล้วเกิดความรู้สึกปลาบปลื้มผ่องใสในกุศลที่ได้กระทำแล้ว ในขณะนั้น ก็เป็นกุศลจิตได้ แต่ถ้าทำกุศลแล้ว ควรพิจารณาว่า ขณะที่เกิดดีใจว่า "เรา" หรือ "ตัวเรา" ได้กระทำกุศลนั้นๆ สำเร็จลงไปแล้ว เป็นกุศลหรือเปล่า ขณะนั้นเป็นมานะได้ไหม หรือป็นความสำคัญตนได้ไหม สำคัญตน ว่า "เรา" ได้กระทำกุศลอย่างนั้น เพราะฉะนั้น เรื่องของกุศลและอกุศล เป็นเรื่องที่สติสัมปชัญญะ ที่ระลึกรู้ได้ในขณะนั้น จึงจะรู้ความต่างกัน ขณะที่กระทำกุศลแล้ว และเมื่อนึกถึงกุศลที่กระทำแล้ว เกิดเบิกบานผ่องใสในกุศล ไม่ใช่ด้วยความสำคัญตน นี่ต่างกันใช่ไหม
ถ. อารัมมณาธิปติปัจจัย หมายถึงอารมณ์ที่หนักแน่นจริงๆ ที่จะเป็นโลภะ อาจารย์หมายความยังไงครับ ที่ว่าหนักแน่น
ส. หมายความว่า ไม่ทิ้งอารมณ์นั้นเลย ท่านผู้ฟังจะสังเกตได้ว่า ตั้งแต่ลืมตามา จนกระทั่งถึงเดี๋ยวนี้ โลภมูลจิต เกิดขึ้นนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นทางตาที่เห็น ทางหูที่ได้ยิน ทางจมูกที่ได้กลิ่น ทางลิ้นที่ลิ้มรส ทางกายที่กระทบสัมผัส ทางใจที่คิดนึก เช่น ขณะที่กำลังรับประทานอาหารที่พอใจ ขณะนั้น เป็นโลภมูลจิตหรือเปล่า ถ้าขณะนั้นไม่ใช่โทสมูลจิต ไม่ใช่ความรู้สึกที่ไม่แช่มชื่นแล้วละก็ ขณะนั้น ก็กำลังรับประทานอาหารด้วยโลภมูลจิต ทางกายที่กระทบสัมผัส ก็กำลังกระทบสัมผัสสิ่งที่พอใจ ขณะนั้นเป็นโลภมูลจิต ถ้าขณะนั้นไม่ใช่โทสมูลจิตหรือกุศลจิต เพราะฉะนั้น โลภะเกิดขึ้นเป็นประจำ แต่ว่าขณะใดบ้างซึ่งรู้สึกว่า ปรารถนาต้องการอารมณ์ใดบางอารมณ์ในวันนี้ ก็หมายความว่า อารมณ์นั้น ในขณะนั้น เป็น อารัมมณาธิปติปัจจัย ซึ่งไม่ใช่เป็นเพียง อารัมมณปัจจัย
ข้อความบางตอนจากเทปชุด ปัฏฐาน (ปัจจัย ๒๔) ตอนที่ ๓
โดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ขออนุโมทนา