กัลยาณมิตตตาทิวรรคที่ ๘ .. ความมีมิตรดีเป็นเหตุให้กุศลธรรมเกิดขึ้น

 
บ้านธัมมะ
วันที่  23 พ.ย. 2552
หมายเลข  14317
อ่าน  2,668

[เล่มที่ 32] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 142

กัลยาณมิตตตาทิวรรคที่ ๘

(ว่าด้วยความมีมิตรดีเป็นเหตุให้กุศลธรรมเกิดขึ้นเป็นต้น)

[๗๒]  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่เป็นเหตุให้กุศลธรรมที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรืออกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว เสื่อมไป เหมือนความเป็นผู้มีมิตรดี

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อบุคคลมีมิตรดี กุศลธรรมที่ยังไม่เกิดย่อมเกิดขึ้น และอกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมเสื่อมไป.

[๗๓]  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่เป็นเหตุให้อกุศลธรรมที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว เสื่อมไป เหมือนการประกอบอกุศลธรรมเนืองๆ ไม่ประกอบกุศลธรรมเนืองๆ

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะการประกอบอกุศลธรรมเนืองๆ เพราะการไม่ประกอบกุศลธรรมเนืองๆ อกุศลธรรมที่ยังไม่เกิด ย่อมเกิดขึ้น และกุศลธรรมที่เกิด ขึ้นแล้ว ย่อมเสื่อมไป.

[๗๔]  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่เป็นเหตุให้กุศลธรรมที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรืออกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว เสื่อมไป เหมือนการประกอบกุศลธรรมเนืองๆ การไม่ประกอบอกุศลเนืองๆ

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะการประกอบกุศลธรรมเนืองๆ เพราะการไม่ประกอบอกุศลธรรมเนืองๆ กุศลธรรมที่ยังไม่เกิด ย่อมเกิดขึ้น อกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมเสื่อมไป.

[๗๕]  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่เป็นเหตุให้โพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด ไม่เกิดขึ้น หรือโพชฌงค์ที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมไม่ถึงความเจริญบริบูรณ์ เหมือนการใส่ใจโดยไม่แยบคาย

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อบุคคลใส่ใจโดยไม่แยบคาย โพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด ย่อมไม่เกิดขึ้น และโพชฌงค์ที่เกิดขึ้นแล้วย่อมไม่ถึงความเจริญบริบูรณ์.

[๗๖]  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง ที่เป็นเหตุให้โพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือโพชฌงค์ที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมถึงความเจริญบริบูรณ์ เหมือนการใส่ใจโดยแยบคาย

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อบุคคลใส่ใจโดยแยบคาย โพชฌงค์ที่ยังไม่เกิดย่อมเกิดขึ้น และโพชฌงค์ที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมถึงความเจริญบริบูรณ์

[๗๗]  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเสื่อมญาติมีประมาณน้อย ความเสื่อมปัญญาชั่วร้ายที่สุดกว่าความเสื่อมทั้งหลาย.

[๗๘]  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเจริญด้วยญาติมีประมาณน้อย ความเจริญด้วยปัญญาเลิศกว่าความเจริญทั้งหลาย

เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลาย พึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า เราทั้งหลายจักเจริญด้วยปัญญา ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้แล.

[๗๙]  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเสื่อมแห่งโภคะ มีประมาณน้อย ความเสื่อมแห่งปัญญา ชั่วร้ายที่สุดกว่าควานเสื่อมทั้งหลาย.

[๘๐]  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเจริญด้วยโภคะมีประมาณน้อย ความเจริญด้วยปัญญาเลิศกว่าความเจริญทั้งหลาย

เพราะฉะนั้น เธอทั้งหลาย พึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า เราทั้งหลายจักเจริญโดยความเจริญปัญญา

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลาย พึงสำเหนียกอย่างนี้แล.

[๘๑]  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเสื่อมยศมีประมาณน้อย ความเสื่อมปัญญาชั่วร้ายที่สุดกว่าความเสื่อมทั้งหลาย.

จบ กัลยาณมิตตตาทิวรรคที่ ๘


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 23 พ.ย. 2552

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ข้อความโดยสรุป

กัลยาณมิตตตาทิวรรคที่ ๘ (ว่าด้วยความมีมิตรดีเป็นเหตุให้กุศลธรรมเกิดขึ้นเป็นต้น)

พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงแสดงธรรมหมวดหนึ่ง แต่ละหนึ่งๆ ดังต่อไปนี้ ความเป็นผู้มีมิตรดี เป็นเหตุให้กุศลธรรมที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือ อกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว เสื่อมไป การประกอบอกุศลธรรมเนืองๆ ไม่ประกอบกุศลธรรมเนืองๆ เป็นเหตุให้อกุศลธรรมที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือ กุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว เสื่อมไป การประกอบกุศลธรรมเนืองๆ ไม่ประกอบอกุศลธรรมเนืองๆ เป็นเหตุให้กุศลธรรมที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือ อกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว เสื่อมไป การใส่ใจโดยไม่แยบคาย เป็นเหตุให้โพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด ไม่เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้ว ไม่ถึงความเจริญบริบูรณ์ การใส่ใจโดยแยบคาย เป็นเหตุโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือ ที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมถึงความเจริญบริบูรณ์

ความเสื่อมญาติ เสื่อมโภคะ เสื่อมยศ มีประมาณน้อย ความเสื่อมแห่งปัญญาชั่วร้ายที่สุดกว่าความเสื่อมทั้งหลาย

ความเจริญด้วยญาติ ด้วยโภคะ (ด้วยยศ) มีประมาณน้อย ความเจริญด้วยปัญญาเลิศกว่าความเจริญทั้งหลาย

หมายเหตุ การแบ่งพระสูตรในวรรคนี้ มี ๑๐ หัวข้อ สำหรับหัวข้อที่ ๑๑ คือ

[เล่มที่ 32] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 151

[๘๒]  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเจริญด้วยยศมีประมาณน้อย ความเจริญด้วยปัญญาเลิศกว่าความเจริญทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลาย พึงสำเนียกอย่างนี้ว่า เราทั้งหลายจักเจริญโดยความเจริญด้วยปัญญา ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้แล. (ข้อที่ ๘๒ นี้ ไปรวมอยู่ในวรรคถัดไป ครับ)

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 25 พ.ย. 2552

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
hadezz
วันที่ 25 พ.ย. 2552

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
paew_int
วันที่ 25 พ.ย. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
สาระ
วันที่ 25 พ.ย. 2552

เป็นหัวข้อที่ควรศึกษาอย่างละเอียด

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
paderm
วันที่ 25 พ.ย. 2552

เป็นหัวข้อที่น่าสนใจ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ups
วันที่ 26 พ.ย. 2552

เป็นเรื่องที่ยากจริงครับ แต่ต้องอบรมต่อไป และขออนุโมทนาในกุศลจิตทุกท่าน

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ที่พึ่งที่ระลึก
วันที่ 26 พ.ย. 2552

เป็นหัวข้อที่น่าสนใจ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
petcharath
วันที่ 26 พ.ย. 2552
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
pornpaon
วันที่ 27 พ.ย. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
คุณ
วันที่ 27 พ.ย. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
ประสาน
วันที่ 27 พ.ย. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
เมตตา
วันที่ 27 พ.ย. 2552

เป็นหัวข้อที่น่าสนใจ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
paiboon
วันที่ 28 พ.ย. 2552

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
เข้าใจ
วันที่ 8 ต.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ