บุคคลครุ่นคิดถึงสิ่งใด

 
sutta
วันที่  2 ธ.ค. 2552
หมายเลข  14410
อ่าน  1,805

[เล่มที่ 25] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้าที่ 76

๔. ภิกขุสูตรที่ ๒

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ บุคคลครุ่นคิดถึงสิ่งใดย่อมหมกมุ่นสิ่งนั้น หมกมุ่นสิ่งใด ย่อมถึงการนับเพราะสิ่งนั้น ไม่ครุ่นคิดถึงสิ่งใด ย่อมไม่หมกมุ่นสิ่งนั้น ไม่หมกมุ่นสิ่งใด ย่อมไม่ถึงการนับเพราะสิ่งนั้น.ภิ. ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพระองค์เข้าใจแล้ว ข้าแต่พระสุคต ข้าพระองค์เข้าใจแล้ว. ฯลฯ

[๗๘] พ. ถูกแล้ว ถูกแล้ว ภิกษุ เธอเข้าใจเนื้อความแห่งคำที่เรากล่าวโดยย่อได้โดยพิสดารดีนักแลดูก่อนภิกษ ถ้าบุคคลครุ่นคิดถึงรูป ย่อมหมกมุ่นรูปนั้น หมกมุ่นรูปใด ย่อมถึงการนับเพราะรูปนั้นถ้าครุ่นคิดถึงเวทนา ฯลฯ ถ้าครุ่นคิดถึงสัญญา ฯลฯ ถ้าครุ่นคิดถึงสังขาร ฯลฯ ถ้าครุ่นคิดถึงวิญญาณ ย่อมหมกมุ่นวิญญาณนั้น หมกมุ่นวิญญาณใด ย่อมถึงการนับเพราะวิญญาณนั้น ดูก่อนภิกษุ ถ้าบุคคลไม่ครุ่นคิดถึงรูป ย่อมไม่หมกมุ่นรูปนั้น ไม่หมกมุ่นรูปใด ย่อมไม่ถึงการนับเพราะรูปนั้น ถ้าไม่ครุ่นคิดถึงเวทนา ฯลฯ ถ้าไม่ครุ่นคิดถึงสัญญา ฯลฯ ถ้าไม่ครุ่นคิดถึงสังขาร ฯลฯ ถ้าไม่ครุ่นคิดถึงวิญญาณย่อมไม่หมกมุ่นวิญญาณนั้น ไม่หมกมุ่นวิญญาณใด ย่อมไม่ถึงการนับเพราะวิญญาณนั้น ฯลฯ

อรรถกถาภิกขุสูตรที่ ๒

บทว่า ตํ อนุมิยฺยติ ความว่า รูปที่เขาครุ่นคิดนั้น ย่อมตายไปตามความครุ่นคิดที่กำลังตายไป ด้วยว่าเมื่ออารมณ์แตกไป ธรรมที่มีรูปนั้นเป็นอารมณ์ย่อมตั้งอยู่ไม่ได้.

บทว่า ยํ อนุมิยฺยติ ความว่า รูปใด ตายไปตามความครุ่นคิดใด.

บทว่า เตน สุงฺขํ คจฺฉติ ความว่า ด้วยความครุ่นคิดนั้น บุคคลย่อมถึงการนับว่า รัก โกรธ หลง

อีกอย่างหนึ่ง คำว่า ยํ เป็นตติยาวิภัตติ ความว่า บุคคลย่อมถึงการนับว่า รัก โกรธหลง ด้วยความครุ่นคิดถึงรูปที่ตายไปนั้น.

จบ อรรถกถาภิกขุสูตรที่ ๒


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
Mayura
วันที่ 18 พ.ค. 2560

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น

_/\_ _/\_ _/\_

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 26 ธ.ค. 2567

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ