อินเดีย ... อีกแล้ว 21 กุฏิท่านพระอานนท์
กุฏิท่านพระอานนท์
ไปครั้งนี้ได้ไปกราบที่กุฏิของท่านพระอานนท์ก่อน เมื่อกราบลงไปนั้นเกิดปีติจนน้ำตา คลอเมื่อนึกถึงพระคุณของท่านที่ทรงจำพระธรรมที่ทรงแสดงทั้งหมดไว้ ทำให้เรามี โอกาสได้ฟังพระธรรมที่ตรัสรู้มาโดยยากและที่ทรงแสดงไว้ดีแล้ว ทำให้พระสัทธรรมไม่ เลือนหายไป และสืบต่อมาจนถึง ๒,๕๐๐ กว่าปี
ท่านพระอานนท์เป็นสหชาติ (เกิดพร้อมกัน) ๑ ใน ๗ กับพระผู้มีพระภาค เป็นโอรส ของพระเจ้าสุกโกทนะซึ่งเป็นพระเจ้าอาของพระผู้มีพระภาค และพระนางกีสาโคตมี ท่านพระอานนท์ออกผนวชพร้อมกับเจ้าศากยวงศ์อีก 4 องค์ คือ ภัททิยะ อนุรุทธะ ภัคคุ กิมพิละ และเจ้าชายโกลิยวงศ์อีก 1 องค์ คือ เทวทัต และราษฎรสามัญชนมีอาชีพเป็น ช่างตัดผม อีก 1 คน คือ อุบาลี รวมทั้งสิ้น 7 คน ทั้ง 7 คนได้เข้าไปขออุปสมบทกับ พระผู้มีพระภาค หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านพระอานนท์ได้รับฟังธรรมจากพระ ปุณณมันตานีบุตร ได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน
ท่านพระพุทธโฆษาจารย์ได้เล่าไว้ว่า ท่านพระอานนท์มีปัญญา มีความจำดี ท่านได้ฟัง ครั้งเดียว ไม่ต้องถามอีกก็สามารถจำได้เป็นจำนวนตั้ง 60,000 บาท 15,000 คาถา โดยไม่เลอะเลือน ไม่คลาดเคลื่อน เหมือนบุคคลเอาเถาวัลย์มัดดอกไม้ถือไป เหมือน จารึกอักษรลงบนแผ่นศิลา เหมือนน้ำมันใสของราชสีห์ที่บุคคลใส่ไว้ในหม้อทองคำ ฉะนั้น (จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี)
ท่านถึงได้รับการยกย่องจากพระผู้มีพระภาคว่า เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุอื่นถึง ๕ สถาน คือ เป็นเลิศในทางมีสติ รอบคอบ ๑ มีคติ คือ ความทรงจำแม่นยำ ๑ มีความเพียรดี ๑ เป็น พหูสูต ๑ เป็นยอดของภิกษุผู้อุปัฏฐากพระพุทธเจ้า ๑
นอกจากนั้นท่านพระอานนท์ยังรับหน้าที่สำคัญในการสาธยายพระสูตรและพระ อภิธรรมในการสังคายนาครั้งที่ ๑ ที่ถ้ำสัตตบรรณคูหาในเมืองราชคฤห์นี้เอง และท่าน ปรินิพพานกลางอากาศเหนือแม่น้ำโรหิณีที่กั้นกลางระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์และกรุงเท วทหะ เพื่อให้ญาติทั้งสองฝ่ายแบ่งอัฐิธาตุกัน เมื่อท่านอายุได้ ๑๒๐ ปี
ขอเรียนถามค่ะว่า ท่านพระอานนท์ ปรินิพพานกลางอากาศอย่างไรคะ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ
เรียนความเห็นที่ 4
เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ...การปรินิพพานของท่านพระอานนท์ [คาถาธรรมบท]