เจตนาที่เป็นอกุศล ผลย่อมเป็นอกุศลวิบาก [อรรถกถาสูจิโลมสูตร]
[เล่มที่ 47] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖ - หน้า 203
ข้อความบางตอนจาก อรรถกถาสูจิโลมสูตรที่ ๕
(ส่วน) สูจิโลมยักษ์นอกนี้ ในสมัยแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่ากัสสปะ เป็นอุบาสกไปวัดฟังธรรมเดือนละ ๘ ครั้ง วันหนึ่งเมื่อเขาประกาศการฟังธรรมกัน เขาก็เล่นอยู่ที่นาของตน ใกล้ประตูสังฆาราม ฟังเสียงการโฆษณาแล้ว ก็คิดว่า ถ้าว่าเราจะอาบน้ำไซร้ ก็จักชักช้า ดังนี้ ทั้งๆ ที่มีร่างกายสกปรกนั้นเอง ก็เข้าไปยังโรงอุโบสถ แล้วก็นอนหลับไปบนเครื่องลาดอันมีค่ามาก ด้วยความไม่เอื้อเฟื้อ อาจารย์ทั้งหลายผู้กล่าวคัมภีร์สังยุตตนิกาย กล่าวว่า เขาผู้นี้เป็นภิกษุนั้นเอง หาใช่อุบาสกไม่ ด้วยกรรมนั้น และด้วยกรรมอื่นอีก เขาจึงไหม้ในนรก และมาเกิดในกำเนิดยักษ์ที่ฝั่งแห่งสระโบกขรณี เขาเป็นผู้มีรูปร่างน่าเกลียดด้วยวิบากอันเหลือลงแห่งกรรมนั้น ก็ที่กายของสูจิโลมยักษ์นั้นมีขนเหมือนเข็ม ...
แสดงให้เห็นว่า ด้วยจิตที่ไม่เอื้อเฟื้อคือไม่เคารพในสถานที่ มีเจตนาไม่เคารพ มีเจตนาที่ไม่เอื้อเฟื้อ เมื่อมีเจตนาที่เป็นอกุศล ผลย่อมเป็นอกุศลวิบาก แต่ถ้าไม่มีเจตนาที่เป็นอกุศลแล้ว จะตกนรกหรือให้ผลเป็นอกุศลวิบากได้อย่างไรคะ
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์