อินเดีย ... อีกแล้ว 24 ที่คุมขังพระเจ้าพิมพิสาร
ที่คุมขังพระเจ้าพิมพิสาร
ที่คุมขังพระเจ้าพิมพิสารอยู่ใกล้ๆ กับวัดชีวกัมพวัน คราวนี้ไม่ได้ผ่านเฉยๆ ลงไปดู อย่างละเอียด เห็นแต่ซากฐานกำแพงหินหนาประมาณ ๖ ฟุตล้อมรอบบริเวณ จากจุดนี้ สามารถมองเห็นพระคันธกุฎีบนยอดเขาคิชฌกูฏ
พระเจ้าพิมพิสารเป็นกษัตริย์ของแคว้นมคธ ซึ่งมีกรุงราชคฤห์เป็นเมืองหลวง พระองค์ มีพระราชโอรสที่เกิดจากพระนางเวเทหิ พระราชธิดาของพระเจ้ามหาโกศล ชื่อ อชาตศัตรู ซึ่งมีความเลื่อมใสในท่านพระเทวทัตที่บรรลุโลกียฌาน สามารถแสดงฤทธิ์ ได้ ท่านพระเทวทัตยุยงให้พระเจ้าอชาตศัตรูทำปิตุฆาต เพื่อเป็นกษัตริย์เสียเอง และ ตนเองก็จะเป็นพระพุทธเจ้าแทน พระเจ้าอชาตศัตรูจึงนำพระเจ้าพิมพิสาร ไปคุมขังที่ สถานที่แห่งนี้ ให้อดอาหาร แต่พระเจ้าพิมพิสารก็ยังมีชีวิตอยู่ได้เพราะมีปีติจากการเดิน จงกรมทำให้พระองค์มองเห็นพระคันธกุฎี พระเจ้าอชาตศัตรูจึงสั่งให้กรีดพระบาท ทำ ให้เดินไม่ได้ วันหนึ่งโอรสของพระองค์ประสูติ นึกถึงความรักของบิดาที่มีต่อบุตร จึง สั่งให้ปล่อยพระเจ้าพิมพิสาร แต่พระองค์สวรรคตเสียแล้ว
พระเจ้าอชาตศัตรูจึงมีความ ทุกข์มากที่ได้ทำกรรมหนัก และต่อมาท่านก็ถูกโอรส คือ เจ้าชายอุทัยภัทรทำปิตุฆาต หลังจากครองราชย์ได้ ๒๔ ปี เมื่อพระเจ้าอุทัยภัทรเป็นกษัตริย์ได้ย้ายเมืองหลวงไปอยู่ เมื่องปาฏลีบุตร และกษัตริย์ราชวงศ์ของพระองค์ก็ทำปิตุฆาตต่อกันมาถึง ๕ รัชกาล ราษฎรจึงได้พร้อมใจกันปลงพระชนม์กษัตริย์พระนามว่า นาคทาสก์ แล้วสถาปนามหา อำมาตย์ ชื่อ สุสุนาค ขึ้นเป็นกษัตริย์ ตั้งราชวงศ์ใหม่ ย้ายเมืองหลวงไปตั้งที่เวสาลี เมื่อได้อ่านเรื่องพระเจ้าพิมพิสารแล้ว รู้สึกไม่ชอบท่านพระเทวทัต และพระเจ้า อชาตศัตรูเลย แต่ภายหลังได้ทราบว่า ในอนาคตท่านทั้งสองจะเป็นพระปัจเจก พุทธเจ้า ความไม่ชอบนั้นก็น้อยลง นึกถึงคำบรรยายของท่านอาจารย์ว่า ทุกอย่างเป็น ธรรม อกุศลก็เป็นธรรม กุศลก็เป็นธรรม อกุศลของท่านทั้งสอง ความไม่ชอบของเราก็ เป็นธรรม ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ขณะที่อกุศลเกิด ปัญญาไม่เกิด และเมื่อ มีอกุศลมากๆ ก็เป็นอาหารของอวิชชา ความไม่รู้สภาพธรรมที่ปรากฏ ก็ยิ่งทำให้ทำ อกุศลมากขึ้น จนถึงขั้นอนันตริยกรรม และกุศลก็เช่นเดียวกัน เมื่อกุศลเกิดก็มีปัญญา เกิดร่วมด้วย สะสมกุศลมากขึ้นจนเป็นบารมี ก็สามารถจะดับกิเลสได้ อย่างท่านทั้งสอง ที่จะเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าในอนาคต
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
สมัยก่อนที่ได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับท่านพระเทวทัต พระเจ้าอาชาตศัตรู ก็รู้สึกไม่ดีเลย ถึงขั้นไม่พอใจด้วยซ้ำ ท่านหนึ่งทำร้ายพระพุทธเจ้า ท่านหนึ่งทำปิตุฆาต แต่ท่านจะได้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า จริงๆ แล้วไม่เข้าใจหรอกค่ะ แต่พอมาถึงตอนนี้ ก็เข้าใจขึ้นมาสักนิดหนึ่งว่า อกุศลกรรมท่านก็ทำ แต่บารมีที่ท่านได้สะสมมาก็มีอยู่