สามเณรอรหันต์

 
panasda
วันที่  16 ธ.ค. 2552
หมายเลข  14731
อ่าน  2,047

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา เล่ม ๒ ภาค ๓ ตอน ๑ - หน้าที่ 204

ครั้นอยู่มาวันหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแผ่ข่าย คือพระญาณไปในเวลาใกล้รุ่ง ทรงตรวจดูผู้เป็นเผ่าพันธุ์แห่งเวไนยสัตว์ ทรงเห็นเขาหยั่งลงสู่ภายในข่ายคือพระญาณ จึงได้เสด็จไปสู่ที่แห่งป่าช้า ทารกอันบุพเหตุตักเตือนอยู่ เป็นผู้มีใจเลื่อมใสแล้ว เข้าไปเฝ้าพระบรมศาสดา ถวายบังคมแล้วยืนอยู่.

พระบรมศาสดาทรงแสดงธรรมแก่เขา. เขาฟังธรรมแล้ว ทูลขอบรรพชาอันพระบรมศาสดาตรัสถามว่า ท่านเป็นผู้อันบิดาอนุญาตแล้วหรือ จึงนำบิดาไปสู่สำนักของพระบรมศาสดา. บิดาของเขาเข้าไปเฝ้าพระบรมศาสดา ถวายบังคมแล้ว อนุญาตว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระองค์จงทรงยังทารกนี้ให้บวชเถิด. พระบรมศาสดาให้เขาบวชแล้ว ทรงแนะนำในเมตตาภาวนากรรมฐาน.

ท่านเรียนกรรมฐานมีเมตตาเป็นอารมณ์ อยู่ในป่าช้า ยังฌานมีเมตตาเป็นอารมณ์ให้เกิดแล้ว ต่อกาลไม่นานนัก กระทำฌานให้เป็นบาท เจริญวิปัสสนา กระทำให้แจ้งซึ่งพระอรหัตแล้ว. สมดังคาถาประพันธ์ที่ท่านกล่าวไว้ในอุปทานว่าพระพุทธเจ้าผู้มีความเพียรใหญ่ ทรงรู้จบธรรมทั้งปวง ทรงพระนามว่า กกุสันธะ พระองค์เสด็จหลีกออกจากหมู่ ไปสู่ภายในป่า เราถือเมล็ดพืชเครือเถา เที่ยวมา

สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเข้าฌานอยู่ ณ. ระหว่างภูเขา เราเห็นพระพุทธเจ้าผู้เป็นเทพของทวยเทพแล้ว มีใจเลื่อมใส ได้ถวายเมล็ดพืชแด่พระพุทธเจ้า ผู้เป็นทักขิไณยบุคคล เป็นนักปราชญ์ ในกัปนี้เอง เราได้ถวายพืชใดในกาลนั้น ด้วยการถวายพืชนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งเมล็ดพืช เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ฯลฯ คำสอนของพระพุทธเจ้า เราทำสำเร็จแล้ว ดังนี้.

ท่านเป็นพระอรหันต์ เมื่อจะแสดงวิธีแห่งการเจริญเมตตา แก่ภิกษุทั้งหลายผู้มีปกติอยู่ในป่าช้าเหล่าอื่น ได้ภาษิตคาถาว่าบุคคลพึงมีเมตตา ในบุตรคนเดียวผู้เป็นที่รัก ฉันใด ภิกษุพึงมีเมตตาในสัตว์ทั้งปวง ในที่ทุกสถานฉันนั้น ดังนี้.


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
phao
วันที่ 12 มิ.ย. 2553

dHfuotjก็ดี

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
phao
วันที่ 2 ส.ค. 2556

ขอบคุณมากช่วยตอบ อนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 26 มี.ค. 2567

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ