การเจริญเมตตาจิต โดยที่สุด แม้เพียงเวลาสูดดมของหอม
ขอเรียนถาม
1. ความหมายของประโยคที่ว่า "การเจริญเมตตาจิต โดยที่สุด แม้เพียงเวลาสูดดมของหอม" เป็นอุปมาว่า "เป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ " ใช่หรือไม่ครับ
2. อานิสสงส์ของการเจริญเมตตาจิต มีผลมากกว่า การสมาทานสิกขาบท > การถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ > การสร้างวิหารถวายสงฆ์ > การให้ทาน ฯลฯ อยากทราบว่า อานิสสงส์ที่มีผลมากกว่าคืออย่างไรครับ อานิสสงส์นั้นหมายถึงกุศลวิบากจิต หรือ โภคสมบัติ-ทิพยสมบัติ ครับ
3. อานิสสงส์ของการให้ทาน ย่อมได้ผลเป็นโภคสมบัติ ทิพยสมบัติ แลดูสมเหตุสมผล แต่อานิสสงส์ของการรักษาศีล การเจริญสมถภาวนา การเจิรญวิปัสสนาภาวนาจะให้ผลเป็นโภคสมบัติ ทิพยสมบัติ หรือไม่ครับ หรือจะให้ผลเป็นกุศลวิบากจิต/กุศล วิบากปฏิสนธิจิต
๑. ถูกต้องครับ เป็นการเปรียบเทียบ แต่หมายเอาเมตตาที่มีกำลังถึงขั้นฌานครับ
๒. ท่านหมายถึงการเจริญเมตตาขั้นสูง เป็นขั้นภาวนากุศล ทำให้เกิดในพรหมโลก ส่วนกุศลขั้นอื่น เป็นเพียงกามวจรเท่านั้น
๓. ศีลกุศล ภาวนากุศล สูงกว่าขั้นทาน ดังนั้นผลอานิสงส์จึงมากกว่า ทำให้เกิด ในภพเบื้องสูง มีทรัพย์ที่ประณีตกว่า แต่ผลโดยตรงของศีลและภาวนาไม่ใช่โภคสมบัติ แต่เป็นภวสมบัติ คือภพที่ดี และโดยปรมัตถ์ผลก็คือ กุศลวิบาก และ กัมมชรูปที่ดีครับ