การนินทาและสรรเสริญ
[เล่มที่ 42] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ -หน้าที่ 425
๗. อตุละ การนินทาและสรรเสริญนั่นเป็นของเก่า นั่นไม่ใช่เป็นเหมือนมีในวันนี้ ชนทั้งหลายย่อม นินทาผู้นั่งนิ่งบ้าง ย่อมนินทาผู้พูดมากบ้าง ย่อมนินทาผู้พูดพอประมาณบ้าง ผู้ไม่ถูกนินทาไม่มีในโลก คนผู้ถูกนินทาโดยส่วนเดียว หรือว่าอันเขาสรรเสริญโดยส่วนเดียว ไม่ได้มีแล้ว จักไม่มี และไม่มีอยู่ในบัดนี้
หากว่าวิญญูชนใคร่ครวญแล้วทุกๆ วัน สรรเสริญผู้ใด ซึ่งมีความประพฤติไม่ขาดสาย มีปัญญา ผู้ตั้งมั่นด้วยปัญญาและศีล ใครเล่าย่อมควร เพื่อติเตียนผู้นั้น ผู้เป็นดังแท่งทองชมพูนุท แม้เทวดา ทั้งหลายก็สรรเสริญเขา ถึงพรหมก็สรรเสริญแล้ว.
๘. พึงรักษาความกำเริบทางกาย พึงเป็นผู้สำรวมทางกาย พึงละกายทุจริตแล้ว พึงประพฤติ สุจริตทางกาย พึงรักษาความกำเริบทางวาจา พึงเป็นผู้สำรวมทางวาจา พึงละวจีทุจริต พึงประพฤติสุจริตทางวาจา พึงละความกำเริบทางใจ พึงเป็นผู้สำรวมทางใจ พึงละมโนทุจริตแล้ว พึงประพฤติสุจริตทางใจ ธีรชนทั้งหลายสำรวมทางกาย สำรวมทางวาจา สำรวมทางใจ ธีรชนเหล่านั้นแล ชื่อว่าสำรวม รอบคอบดีแล้ว.
จบ โกธวรรคที่ ๑๗