ผู้ที่มีความรักในพระพุทธเจ้า
[เล่มที่ 42] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้าที่ 381
๗. เรื่องพระติสสเถระ [๑๖๓]
ข้อความเบื้องต้น
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในเมืองไพศาลี ทรงปรารภภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "ปริเวกรส" เป็นต้น
ได้ทราบข่าวปรินิพพานแล้วบำเพ็ญสมณธรรม
ความพิสดารว่า เมื่อพระศาสดาตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลายโดยเดือน ๔ เดือนจากนี้ เราจักปรินิพพาน" ภิกษุ ๗๐๐ ในสำนักของพระศาสดาถึงความสะดุ้งแล้ว ธรรมสังเวชเกิดขึ้นแก่พระขีณาสพทั้งหลาย ภิกษุปุถุชนทั้งหลายไม่สามารถจะอดกลั้นน้ำตาได้ ภิกษุทั้งหลายเป็นพวกๆ เที่ยวปรึกษากันว่า "พวกเราจักทำอย่างไรหนอ" ครั้งนั้น ภิกษุรูปหนึ่งชื่อว่าติสสเถระคิดว่า "ได้ยินว่า พระศาสดาจักปรินิพพาน โดยล่วงไป ๔ เดือน ก็เราเป็นผู้มีราคะยังไม่ไปปราศ เมื่อพระศาสดายังทรงพระชนม์อยู่นั่นแหละ เราควรถือเอาพระอรหัต (ให้ได้) " แล้วจึงอยู่ผู้เดียวเท่านั้นในอิริยาบถ ๔ การไปสู่สำนักของภิกษุทั้งหลาย หรือการสนทนาปราศรัยกับผู้ใดผู้หนึ่ง ย่อมไม่มี
ครั้งนั้นภิกษุทั้งหลายกล่าวกะท่านว่า "คุณติสสะ เหตุไร? คุณจึงทำอย่างนี้" ท่านไม่ฟังถ้อยคำของภิกษุเหล่านั้น. ภิกษุเหล่านั้น กราบทูลความเป็นไปนั้นแด่พระศาสดาแล้ว กราบทูลว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระติสสเถระไม่มีความรักในพระองค์"
พระศาสดารับสั่งให้หาท่านมาแล้ว ตรัสถามว่า "ติสสะ เหตุไร? เธอจึงทำอย่างนี้" เมื่อท่านกราบทูลความประสงค์ของตนแล้ว ประทานสาธุการว่า "ดีละติสสะ" แล้วตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย ผู้มีความรักในเรา จงเป็นเหมือนติสสะเถิด แม้คนกระทำการบูชาอยู่ด้วยของหอมและระเบียบดอกไม้เป็นต้น ไม่ชื่อว่าบูชาเราเลย แต่คนผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมนั่นแหละ ชื่อว่าบูชาเรา" แล้วตรัสพระคาถานี้ว่า :-
"บุคคลดื่มรสอันเกิดแต่วิเวกและรสพระนิพพานเป็นที่เข้าไปสงบ ดื่มรสปีติอันเกิดแต่ธรรม ย่อมเป็นผู้ไม่มีความกระวนกระวาย ไม่มีบาป"