มหาวิปัสนา (คืออนุปัสนา) ๑๘
วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๓ ตอน ๒ (ตอนจบ) - หน้าที่ 99
มหาวิปัสนา (คืออนุปัสนา) ๑๘ เหล่าใดที่พึงถึงได้โดยอาการทั้งปวง ด้วยอำนาจปหานปริญญา ตั้งแต่ภังคานุปัสนญาณ (ปัญญาคำนึงเห็นความดับ) ข้างหน้าไป เมื่อแทงตลอด (คือได้) ส่วนหนึ่งแห่งมหาวิปัสนา ๒ เหล่านั้น ใน (ชั้น) สสัมมสนญาณ (คือตีรณปริญญา) นี่แลก่อนก็ย่อมละปฏิปักขธรรม (มีนิจจสัญญา เป็นต้น) แห่งมหาวิปัสนานั้นได้ ปัญญามีอนิจจานุปัสนาเป็นต้น ชื่อว่า มหาวิปัสนา ๑๘ ในอนุปัสนาทั้งหลายไรเล่า
(๑) เมื่อเจริญอนิจจานุปัสนา (ปัญญาคำนึงเห็นความไม่เที่ยง) ย่อมละนิจจสัญญา (ความสำคัญว่าเที่ยง) ได้
(๒) เมื่อเจริญทุกขานุปัสนา (ปัญญาคำนึงเป็นทุกข์) ย่อมละสุขสัญญา (ความสำคัญว่าเป็นสุข) ได้
(๓) เมื่อเจริญอนัตตานุปัสนา (ปัญญา คำนึงเห็นเป็นอนัตตา) ย่อมละอัตตสัญญา (ความสำคัญว่าเป็นอัตตา) ได้
(๔) เมื่อเจริญนิพพิทานุปัสนา (ปัญญาคำนึงถึงด้วยความเบื่อหน่าย) ย่อมละนันทิ (ความเพลิดเพลิน) ได้
(๕) เมื่อเจริญวิราคานุปัสนา (ปัญญาคำนึงด้วยความคลายกำหนัด) ย่อมละราคะได้
(๖) เมื่อเจริญนิโรธารุปัสนา (ปัญญาคำนึงเห็นนิโรธ) ย่อมละสมุทัยได้
(๗) เมื่อเจริญปฏินิสสัคคานุปัสสนา (ปัญญาคำนึงด้วยความสลัดทิ้ง) ย่อมละอาทาน (ความถือไว้) ได้
(๘) เมื่อเจริญขยานุปัสนา (ปัญญาคำนึงเห็นความสิ้นไป) ย่อมละฆนสัญญา (ความสำคัญว่าเป็นก้อน คือเป็นร่างกาย) ได้
(๙) เมื่อเจริญวยานุปัสนา (ปัญญาคำนึงเห็นความเสื่อมไป) ย่อมละอายูหน (ความพยายาม) ได้
(๑๐) เมื่อเจริญวิปริณามานุปัสนา (ปัญญาคำนึงเห็นความปรวนแปร) ย่อมละธุวสัญญา (ความสำคัญว่ามั่นคง) ได้
(๑๑) เมื่อเจริญอนิมิตตานุปัสนา (ปัญญาคำนึงเห็นความไม่มีนิมิต) ย่อมละนิมิต (คือสิ่งที่ถือเอาเป็นเครื่องหมายในความเป็นกลุ่มเป็นก้อน) ได้
(๑๒) เมื่อเจริญอัปปณิหิตานุปัสนา (ปัญญาคำนึงเห็นเป็นสิ่งไม่น่าปรารถนา) ย่อมละปณิธิ (ความปรารถนาด้วยอำนาจตัณหา) ได้
(๑๓) เมื่อเจริญสุญญตานุปัสนา (ปัญญาคำนึงเห็นความว่างเปล่า) ย่อมละอภินิเวส (ความยึดมั่นว่าเป็นตน) ได้
(๑๔) เมื่อเจริญอธิปัญญาธัมมวิปัสนา (ปัญญาเห็นแจ้งในธรรมอันเป็นอธิปัญญา) ย่อมละสาราทานาภินิเวส (ความยึดมั่นโดยถือเอาว่ามีสาระ) ได้
(๑๕) เมื่อเจริญยถาภูตญาณทัสนะ (ความรู้เห็นตามจริง) ย่อมละสัมโมหาภินิเวส (ความยึดมั่นด้วยอำนาจความหลงงมงาย) ได้
(๑๖) เมื่อเจริญอาทีนวานุปัสนา (ปัญญาคำนึงเห็นโทษ) ย่อมละอาลยาภินิเวส (ความยึดมั่นด้วยอำนาจความอาลัย) ได้
(๑๗) เมื่อเจริญปฏิสังขานุปัสนา (ปัญญาคำนึงด้วยพิจารณาหาทางพ้น) ย่อมละอัปปฏิสังขา (ความไม่พิจารณาหาทางพ้น) ได้
(๑๘) เมื่อเจริญวิวัฏฏานุปัสนา (ปัญญาคำนึงเห็นวิวัฏฏะ คือทางพ้นจากวัฏฏะ) ย่อมละสังโยคาภินิเวส (ความยึดมั่นด้วยอำนาจสังโยคะ) ได้