อินเดีย ... อีกแล้ว 39 สู่พาราณสี

 
kanchana.c
วันที่  31 ธ.ค. 2552
หมายเลข  14947
อ่าน  3,634

สู่พาราณสี

วันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ เป็นวันเพ็ญเดือน ๑๒ ซึ่งตรงกับวันปรินิพพานของ ท่านพระสารีบุตร พวกเราต้องออกเดินทางจากเมืองสาวัตถีไปเมืองพาราณสี ใน กำหนดการบอกว่า ออกเดินทางหกโมงเช้า จะถึงประมาณสี่โมงเย็น คณะของท่าน อาจารย์เดินทางไปเมืองลัคเนาว์เพื่อขึ้นเครื่องไปลงที่พาราณสีเลย

การเดินทางในอินเดียนั้น คาดหวังอะไรไม่ได้ ขณะที่รถกำลังแล่นอยู่ ก็เห็นชาว อินเดียจำนวนมหาศาล (ต้องใช้คำนี้ ถึงจะเห็นภาพ) แต่งตัวสวยงาม หอบลูกจูงหลาน ถือสัมภาระมากมาย นั่งรถทุกประเภท เดินเต็มถนนไปหมด จนรถแล่นไม่ได้ ได้ทราบ ว่า วันนี้เป็นวันสำคัญของชาวฮินดู ที่จะต้องเดินทางไปลอยบาปที่เมืองอโยธยา ที่เรา จะผ่านไป รถจอดอยู่นาน คิดว่าวันนี้คงไปเวียนเทียนประทักษิณรอบพระธัมเมกสถูป ที่ สารนาถไม่ทันแล้ว

แต่แล้วก็มีการเจรจาใต้รถ ตำรวจจึงเอาไม้มาเคาะรถบัสให้ผ่านไปได้ รถตู้ของเรา จึงขับตามมาติดๆ ได้เห็นผู้คนมากมาย เมื่อรถข้ามสะพาน มองไปที่เมืองอโยธยา ก็เห็นชาวฮินดูอาบน้ำเต็มแม่น้ำ

เมื่อผ่านอโยธยามาได้ รถก็วิ่งมาโดยสะดวก ถนนดีกว่าเส้นทางที่ผ่านมามาก คงเป็น เมืองใหญ่ ใกล้เวลาอาหารกลางวัน เราส่งภาษาอังกฤษกับอาบีมไม่ค่อยรู้เรื่อง เลยรับ ประทานอาหารกล่องที่โรงแรมจัดมาให้เสียในรถ ปรากฏว่ารถจอดให้รับประทานที่ร้าน ริมทาง แต่เห็นสภาพร้านแล้ว ก็ดีใจที่ทานเสร็จแล้วในรถ เพราะร้านไม่สะอาด และที่ นั่งก็น้อย มีผู้จาริกแสวงบุญคณะอื่นมาใช้บริการอยู่ก่อนแล้ว คงเป็นชาวอิสานบ้านเรา เพราะมีข้าวเหนียวมาแจกกัน เห็นพระสงฆ์หลายรูปนั่งฉันอาหารอยู่ต่างหากโต๊ะหนึ่ง อาบีมคนขับรถของเราหาที่นั่งไม่ได้ เลยไปนั่งหัวโต๊ะร่วมกับพระสงฆ์ คนขับรถชาติ เดียวกันส่งภาษาบอกอาบีมว่านั่งไม่ได้ แต่อาบีมทำเป็นไม่รู้เรื่อง กินอาหารจนเสร็จ

เมื่อจะออกเดินทางต่อ เราเก็บกล่องอาหารที่รับประทานหมดแล้วไปทิ้งขยะ แต่หาที่ ทิ้งไม่ได้ เพราะข้างถนนมีร้านแขกอินเดีย ที่ทำเป็นตู้ไม้เล็กๆ เปิดฝาหน้าขายของ จึง ส่งให้อาบีมหาที่ทิ้งให้ที อาบีมรับไปแล้วก็ทิ้งที่หน้าร้านนั้นเลย แถมกับบอกว่า “In India, no problem” ตัวอาบีมเองเคี้ยวหมากปากแดง เวลาจะบ้วนน้ำหมาก ก็เปิดประตู รถทั้งๆ ที่รถยังวิ่งอยู่ เอาตัวออกไปไกลๆ รถ ตอนแรกคิดว่าตรวจดูยางรถ แต่ที่ไหนได้ บ้วนน้ำหมาก ถนนที่อินเดียจึงไม่มีทางจะสะอาดไปได้ เพราะเป็นทั้งสุขาสาธารณะ ของทั้งคนและสัตว์ กระโถนสาธารณะ และโรงแรมสาธารณะ

หลังจากอิ่มหนำสำราญดีแล้ว เราก็นั่งหลับมาตลอด ทราบจากเพื่อนร่วมทางว่า เรา หลับสนิทไป ๒ ชั่วโมง ๗ วันในการเดินทางไกล แบตเตอรีคงใกล้จะหมดแล้ว เวลา นั้นเป็นเวลาบ่ายสองโมงก็เห็นเมืองใหญ่ ปรากฏว่าถึงพาราณสีแล้ว เร็วกว่าที่คาด จริง อย่างที่บอกไว้ว่า คาดหวังอะไรกับการเดินทางในอินเดียไม่ได้จริงๆ

รถพาเราไปที่สารนาถเลย ไม่ได้แวะโรงแรม รถจอดที่หน้าวัดไทยสารนาถ เราจึงเข้า ไปกราบนมัสการพระประธานในโบสถ์ เดิมวัดนี้เป็นของไทย แต่ตอนนี้มีเจ้าอาวาสเป็น พระศรีลังกา จึงไม่มีสิ่งก่อสร้างมากนัก ดีใจที่ได้มา เพราะมาสารนาถหลายครั้งแล้ว ไม่ มีโอกาสได้แวะเลย คราวนี้รถมาจอดหน้าวัดพอดี เพราะเป็นรถตู้ และมีเวลาเหลือจึง เดินดูร้านขายของที่ระลึก มีผ้าคลุมไหล่ ผ้าส่าหรี ราคาต่อได้สุดๆ แต่ก็ไม่อยากจะซื้อ ของมากนัก เพราะถ้าราคาถูก คุณภาพก็ไม่ดีเลย ถ้าเป็นของดีก็ราคาแพงมาก ใช้ ประโยชน์ไม่คุ้มค่า เนื่องจากอากาศเมืองไทยนั้น โอกาสจะใช้ผ้าคลุมไหล่ไม่ค่อยมี เมื่อคณะรถบัสมาถึง ก็พากันไปดูที่พิพิธภัณฑ์สารนาถ ได้เคยเขียนเล่าละเอียดแล้วใน “เสน่ห์อินเดีย” ใครสนใจย้อนไปอ่านได้ สำหรับคนเขียนสนุกในการเล่า แต่คนอ่าน จะสนุกด้วยหรือไม่นั้น ต้องพิสูจน์เองค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
wannee.s
วันที่ 31 ธ.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
วิริยะ
วันที่ 1 ม.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
pondhip
วันที่ 8 ม.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Jans
วันที่ 10 ม.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
somphop
วันที่ 8 ก.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
somphop
วันที่ 22 ก.ค. 2553

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
guy
วันที่ 25 มี.ค. 2554

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chookasem
วันที่ 28 มี.ค. 2554

ขออนุโมทนา ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
phawinee
วันที่ 12 ก.พ. 2556

ขอบพระคุณมากค่ะ อ่านไปก็คิดตามด้วย "in indea, no proplem"
ฟังแล้วเห็นภาพเลยค่ะ
อนุโมทนาในกุศลจิตของท่านผู้เขียนด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
peem
วันที่ 13 พ.ย. 2556

ขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ