บุคคลผู้กระทำพระนิพพานให้แจ้ง - มิลินทปัญหา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระเจ้ามิลินท์ ตรัสถามว่า ฐานะ ที่บุคคลซึ่งประสงค์จะเดินถูกทาง ต้องตั้งอยู่นั้นมีหรือไม่ และ ถ้ามี เป็นอย่างไร
พระนาคเสน ทูลตอบว่า ขอถวายพระพร มี ฐานะนั้น ได้แก่ ศีล คือ เมื่อบุคคล ตั้งมั่นอยู่ในศีลแล้วกระทำในใจโดยแยบคายแม้ว่าจะอยู่ในที่ใดๆ ก็ย่อมกระทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพานได้
ม. จะกระทำพระนิพพานให้แจ้งนั้น กระทำด้วยอาการอย่างไร
น. ขอถวายพระพร พระนิพพาน เป็น ธรรม อันสงบ ระงับ มีความสุขอย่างประณีตผู้ปฏิบัติชอบ พึงพิจารณาสังขาร ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าและย่อมกระทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน ด้วย "ปัญญา" การที่จะกระทำพระนิพพานให้แจ้ง นั้นต้องพิจารณา "ความเป็นไปของสังขารทั้งหลาย" คือ "ความเกิดและความดับ" จนเห็นว่า "ไม่มีสิ่งใดที่จะยึดถือว่าเป็นตัวตนได้" ในสังขารเหล่านั้น
ครั้นแล้ว ย่อมบังเกิด "ความหน่ายในภพทั้ง ๓ (คือ กามภพ รูปภพ และ อรูปภพ) เมื่อบุคคล กระทำการพิจารณาเช่นนี้ อยู่เนืองๆ จิต ย่อมหมดความยินดีที่จะเวียนว่ายตายเกิดต่อไปรวมทั้ง ย่อมเลื่อมใส ในความสงบ ระงับ ดับสังขาร ตลอดจน ความระงับใน "เหตุ" คือ กิเลส ตัณหา ทั้งหลาย เมื่อประคองจิตเช่นนี้ ให้มั่นคง ด้วย "สติ" และ "วิริยะ"จนกระทั่ง "อริยมรรค" บังเกิด เมื่อนั้น ย่อมเรียกได้ว่า"บุคคลผู้กระทำพระนิพพานให้แจ้ง"
ม. เข้าใจล่ะ
(นิพพานปัฏฐานปัญหา-นิพพานสัจฉิกรณปัญหา) ข้อความบางตอนจาก ...
อาศัยการฟังพระธรรมในเรื่องของสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา เมื่อปัญญาเจริญขึ้น สติและปัญญาเกิดระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมขณะนั้นก็มีศีลด้วย เมื่อสติเกิดระลึกรู้บ่อยๆ จนทั่วทั้ง ๖ ทวารและแทงตลอดแยกขาดนามธรรมและรูปธรรม ปัญญาเจริญขึ้นเป็นลำดับเห็นความเกิดดับของสภาพธรรม จนปัญญาเห็นภัยของสภาพธรรมและเกิดความหน่ายด้วยปัญญา จนประจักษ์พระนิพพานดับกิเลสได้ เพราะฉะนั้นต้องเริ่มจากพื้นฐานเป็นสำคัญคือฟังให้เข้าใจในเรื่องของสภาพธรรมที่มีในขณะนี้ครับ
ขออนุโมทนา