เลือกเอาผู้มีศีล [สาธุศีลชาดก]
[เล่มที่ 57] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้าที่ 272
ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพารณสี พระโพธิสัตว์อุบัติในตระกูลพราหมณ์เรียนศิลปะในเมืองตักกสิลา แล้วได้มาเป็นอาจารย์ทิศาปาโมกข์ในกรุงตักกสิลา
ครั้งนั้นพราหมณ์มีลูกสาวสี่คน. มีชายสี่คนต้องการลูกสาวเหล่านั้น พราหมณ์รำพึงว่า จะควรให้แก่ใคร เมื่อไม่แน่ใจจึงคิดว่า เราจะต้องถามอาจารย์ แล้วให้แก่ผู้ที่ควรให้ จึงไปหาอาจารย์ เมื่อจะถามเรื่องนั้น จึง กล่าวคาถาแรกว่า :-
เราขอถามท่านพราหมณ์ว่า
๑. คนมีรูปงาม
๒. คนอายุมาก
๓. คนมีชาติสูง
๔. คนมีศีล
สี่คนนั้น ท่านจะเลือกเอาคนไหน
ในบทเหล่านั้น พราหมณ์ประกาศคุณที่มีอยู่แก่ชายสี่คน เหล่านั้น. ในคาถานี้มีอธิบายดังนี้ ชายสี่คนต้องการลูกสาว สี่คนของข้าพเจ้า ในชายสี่คนนั้น คนหนึ่งมีรูปงาม คือมีร่างกายสมบูรณ์ มีความสง่า คนหนึ่งอายุมาก คือเป็นผู้ใหญ่ เจริญวัย คนหนึ่งมีชาติสูงคือ สมบูรณ์ด้วยชาติ เพราะเกิดมาดี คนหนึ่งมีศีล คืองดงามด้วยศีล สมบูรณ์ด้วยศีล.
บทว่า พฺราหฺมณนฺเต วปุจฺฉาม ความว่า ข้าพเจ้า ไม่รู้ว่าจะให้ลูกสาวเหล่านี้แก่ชายคนหนึ่งในสี่คนเหล่านั้น จึงขอถาม ท่านพราหมณ์
บทว่า กินฺนุเตส วณิมฺหเส ความว่า ชายสี่คน เหล่านั้น ข้าพเจ้าจะเลือก คือต้องการคนไหนดี. คือพราหมณ์ถาม อาจารย์ว่า ข้าพเจ้าจะให้ลูกสาวเหล่านั้นแก่ใคร
อาจารย์ฟังพราหมณ์นั้นแล้ว จึงตอบว่า คนมีศีลวิบัติแล้ว แม้เมื่อมีรูปสมบัติก็น่าตำหนิ เพราะฉะนั้น รูปสมบัติหาเป็นประมาณไม่ เราชอบความเป็นผู้มีศีล เมื่อจะประกาศความนี้ จึงกล่าวคาถาที่ ๒ ว่า :-
ประโยชน์ในร่างกายก็มีอยู่ ข้าพเจ้าขอทำความนอบน้อมต่อ ท่านผู้เจริญวัย ประโยชน์ ในชาติดีก็มีอยู่ แต่เราชอบใจศีล. ในบทเหล่านั้น บทว่า อตฺโถ อตฺถิ สรีรสฺมึ ความว่า ความต้องการ คือความวิเศษ ความเจริญในร่างกายที่สมบูรณ์ด้วยรูป มีเหมือนกันมิใช่เราว่า ไม่มี.
บทว่า วุฑฺฒพฺยสฺส นโม กเร ความว่า แต่เราทำความนอบน้อมแก่ผู้ เจริญวัย เพราะผู้เจริญวัยย่อมได้การกราบไหว้นับถือ.
บทว่า อตฺโถ อตฺถิ สุชาตสฺมึ ความว่า ความเจริญในคนที่เกิดมาดีก็มี เพราะชาติสมบัติก็ควร ปรารถนาเหมือนกัน.
บทว่า สีล อสฺมาก รุจฺจติ ได้แก่ แต่เราชอบใจ คนมีศีลเท่านั้น. เพราะคนมีศีล สมบูรณ์ด้วยมารยาท แม้จะขาด สรีรสมบัติ ก็ยังน่าบูชา น่าสรรเสริญ. พราหมณ์ฟังคำของอาจารย์แล้วก็ยกลูกสาวให้แก่ คนมีศีลอย่างเดียว