ปฏิจจสมุปบาท ใช้อธิบายกับ อรูปพรหม ที่ไม่มี สฬายตนะ ได้หรือไม่

 
ขอธรรมทาน
วันที่  18 ม.ค. 2553
หมายเลข  15162
อ่าน  1,780

๑. อวิชชา เป็นปัจจัยให้เกิด สังขาร

๒. สังขาร เป็นปัจจัยให้เกิด วิญญาณ

๓. วิญญาณ เป็นปัจจัยให้เกิด นามรูป

๔. นามรูป เป็นปัจจัยให้เกิด สฬายตนะ

๕. สฬายตนะ เป็นปัจจัยให้เกิด ผัสสะ

๖. ผัสสะ เป็นปัจจัยให้เกิด เวทนา

๗. เวทนา เป็นปัจจัยให้เกิด ตัณหา

๘. ตัณหา เป็นปัจจัยให้เกิด อุปาทาน

๙. อุปาทาน เป็นปัจจัยให้เกิด ภพ

๑๐. ภพ เป็นปัจจัยให้เกิด ชาติ

๑๑. ชาติ เป็นปัจจัยให้เกิด ชรา มรณ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส

ข้อ 1 เข้าใจว่า อรูปพรหม ไม่มี สฬตายนะ แล้วอย่างนี้เหตุใด จึงไม่หลุดจากวงจร ต้องลงมาเกิดใหม่อีกครับ

ข้อ 2 วงจรนี้ ใช้อธิบาย พรหมลูกฟัก (มีแต่ร่างกาย) ได้หรือไม่ครับ

ข้อ 3 ตัณหา และ อุปาทาน เป็นเหตุให้เกิดอวิชชาหรือไม่ครับ

ขอบคุณครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 18 ม.ค. 2553

ในอรูปพรหม มี ฉัฏฐายนะ คือ อายตนะที่ ๖ ได้แก่ มนายตนะ แม้อสัญญสัตตาพรหมภูมิ ก็ยังไม่พ้นวัฏฏะ ยังมีภพอยู่ ก็ไม่พ้นจาก ชาติ ชรา มรณะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ขอธรรมทาน
วันที่ 18 ม.ค. 2553

1. พรหมลูกฟักเขาไม่มี วิญญาณ หรือเปล่าครับ ไม่มีนาม มีแต่รูป

2. แล้วอรูปพรหม มี นามรูป หรือเปล่าครับ หรือว่ามีแต่นาม

3. พรหมทั้งสองนี้ อย่างไหนทุกข์น้อยกว่ากันครับ

4. พรหมทั้งสองนี้ มีสังขาร และมี อวิชชา หรือไม่ครับ

ขอบคุณครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
prachern.s
วันที่ 19 ม.ค. 2553

๑. ในพระไตรปิฎกใช้คำว่า อสัญญสัตตาพรหม มีแต่รูป ไม่มีนาม

๒. อรูปพรหมภูมิ มีแต่นาม ไม่มีรูป

๓. พรหมทั้ง ๒ ไม่มีทุกขเวทนา แต่เป็นทุกข์เพราะไม่เที่ยง ต้องตายจากภพนั้น

๔. อรูปพรหม มีสังขาร มีอวิชชา ส่วนอสัญญสัตตา อกุศลธรรม และนามธรรมไม่เกิด แต่มิได้หมายความว่า ดับได้แล้ว เมื่อจุติจากภพนั้นก็มี อวิชชา สังขารเกิดขึ้นอีก

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
pompom
วันที่ 19 ม.ค. 2553

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เมตตา
วันที่ 19 ม.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
natre
วันที่ 9 มิ.ย. 2554
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
chatchai.k
วันที่ 3 เม.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ