รับตำแหน่งผู้นำฯ หรือ ปลีกตัวไปศึกษาธรรม...ควรเลือกอะไร?
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
รายการโทรทัศน์ "บ้านธัมมะ" วันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๒ ถอดเทปสนทนาธรรม โดย คุณย่าสงวน สุจริตกุล
คุณคำปั่น กราบเรียนท่านอาจารย์ที่เคารพอย่างสูงมีท่านผู้ชมทางบ้าน ขอคำแนะนำจากท่านอาจารย์ ว่าระหว่างตำแหน่งผู้นำในสังคม ที่ต้องบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์แต่ต้องพบปะผู้คนมากมาย วุ่นวายกับกิจการงาน ทำให้อกุศลจิตเกิดมากกับการไม่รับตำแหน่ง ปลีกตัวจากการงาน และศึกษาพระธรรม เจริญกุศลควรเลือกอะไร
ท่านอาจารย์สุจินต์ จะเป็นคฤหัสถ์ หรือ เป็นบรรพชิต ชีวิตของคฤหัสถ์ สามารถที่จะรู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้ไหมคะ การเป็นคนดี ดีได้ทุกตำแหน่ง ไม่มีตำแหน่งอะไรเลย ก็เป็นคนดีได้แต่ถ้ามีตำแหน่งแล้ว ไม่เป็นคนดี จะเป็นประโยชน์อะไรกับใครได้ แม้แต่กับตนเอง ก็ยังไม่เป็นประโยชน์ แล้วจะไปเป็นประโยชน์แก่คนอื่นได้อย่างไร ตรงกับเรื่องที่ได้กล่าวไปแล้ว "เมตตา" หรือ "ความเป็นมิตร"เป็นสภาพธรรมที่ไม่เสียหายอะไรเลย เพราะขณะที่มีความเป็นมิตร จิตใจขณะนั้นเป็นเพื่อน หวังดี พร้อมที่จะเกื้อกูลขณะนั้น สบายใจไหมคะ ขณะที่ไม่เป็นทุกข์ใจ หรือเดือดร้อนใจกับใครเลยและไม่ได้มีความหวังร้ายกับใคร ทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจถ้าเป็นอย่างนี้กับคน ๑ คน หรือ ๒-๓-๔-๕ เพิ่มมากขึ้นๆ ความสงบจะมีได้ในโลกไหมคะ ไม่มีการเบียดเบียนกันเลย หมายความว่า เป็นมิตรจริงๆ เกื้อกูลจริงๆ หวังดีจริงๆ ตรงกับข้อความที่ว่า "เมตตาธรรมค้ำจุนโลก"ทำให้โลกดำรงอยู่ได้ด้วยความสงบ เพราะฉะนั้นจะเป็นใคร ตำแหน่งอะไร ไม่เป็น "เครื่องกั้นปัญญา" เลย ถ้า "มีความเข้าใจพระธรรม" จริงๆ
ขออนุโมทนา
การเป็นคนดี ดีได้ทุกตำแหน่ง ไม่มีตำแหน่งอะไรเลย ก็เป็นคนดีได้
ขออนุโมทนาครับ
จะเป็นใคร ตำแหน่งอะไร ไม่เป็น "เครื่องกั้นปัญญา" เลย ถ้า "มีความเข้าใจพระธรรม" จริงๆ
ขออนุโมทนาค่ะ
แต่ถ้ามีตำแหน่งแล้ว ไม่เป็นคนดี จะเป็นประโยชน์อะไรกับใครได้แม้แต่กับตนเอง ก็ยังไม่เป็นประโยชน์ แล้วจะไปเป็นประโยชน์แก่คนอื่นได้อย่างไร
ขออนุโมทนาค่ะ
สำคัญที่สุดคือเป็นคนดี ไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งอะไร
ขออนุโมทนาที่นำข้อความดีๆ มาให้อ่านกันครับ
ขออนุโมทนาค่ะ ยิ่งเป็นคนดีและมีตำแหน่ง โอกาสที่จะทำประโยชน์ ก็ยิ่งมีมากขึ้นค่ะ