จวมานสูตร .. เทวดาจุติมีนิมิต ๕ ประการ
Oo๐ ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย ๐oO
... สนทนาธรรมที่ ...
<> มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา <>
พระสูตร ที่นำมาสนทนาที่มูลนิธิฯ
วันเสาร์ ๓๐ ม.ค. ๒๕๕๓ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๒.๐๐ น. คือ
๔. จวมานสูตร
ว่าด้วยเทวดาจุติมีนิมิต ๕ ประการ
จาก ... พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตก เล่ม ๑ ภาค ๔ - หน้าที่ ๕๐๑
... นำสนทนาโดย ...
ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และคณะวิทยากร
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตก เล่ม ๑ ภาค ๔ - หน้าที่ ๕๐๑
๔. จวมานสูตร
ว่าด้วยเทวดาจุติมีนิมิต ๕ ประการ
[๒๖๑] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อใด เทวดาเป็นผู้จะต้องจุติจากเทพนิกาย เมื่อนั้น นิมิต ๕ ประการ ย่อมปรากฏแก่เทวดานั้น คือ ดอกไม้ย่อมเหี่ยวแห้ง ๑ ผ้าย่อมเศร้าหมอง ๑ เหงื่อย่อมไหลออกจากรักแร้ ๑ผิวพรรณเศร้าหมองย่อมปรากฏที่กาย ๑ เทวดาย่อมไม่ยินดีในทิพอาสน์ของตน ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เทวดาทั้งหลายทราบว่า เทพบุตรนี้จะต้องเคลื่อนจากเทพนิกาย ย่อมพลอยยินดีกะเทพบุตรนั้นด้วยถ้อยคำ ๓ อย่างว่า แน่ะท่านผู้เจริญ ขอท่านจากเทวโลกนี้ไปสู่สุคติ ๑ ครั้น ไปสู่คติแล้ว ขอจงได้ลาภที่ท่านได้ดีแล้ว ๑ ครั้นได้ลาภที่ท่านได้ดีแล้ว ขอเป็นผู้ตั้งอยู่ด้วยดี ๑. [๒๖๒] เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว ภิกษุรูปหนึ่งได้ทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอแลเป็นส่วนแห่งการไปสู่สุคติของเทวดาทั้งหลาย ? อะไรเป็นส่วนแห่งลาภทีเทวดาทั้งหลายได้ดีแล้ว ? อนึ่ง อะไรเป็นส่วนแห่งการตั้งอยู่ด้วยดีของเทวดาทั้งหลาย? พระเจ้าข้า. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลายความเป็นมนุษย์แลเป็นส่วนแห่งการไปสู่สุคติของเทวดาทั้งหลาย ซึ่งเทวดาเกิดเป็นมนุษย์แล้วย่อมได้ศรัทธาในธรรมวินัยที่พระตถาคตประกาศแล้ว นี้แลเป็นส่วนแห่งลาภที่เทวดาทั้งหลายได้ดีแล้ว ก็ศรัทธาของเทวดานั้นแล เป็นคุณชาติตั้งลง มีมูลเกิดแล้วประดิษฐานมั่นคง อันสมณะ พราหมณ์ เทวดา มาร พรหมหรือใครๆ ในโลก พึงนำไปไม่ได้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้แล เป็นส่วนแห่งการตั้งอยู่ด้วยดีของเทวดาทั้งหลาย. เมื่อใด เทวดาจะต้องจุติจากเทพนิกายเพราะความสิ้นอายุ เมื่อนั้นเสียง ๓ อย่างของเทวดาทั้งหลายผู้พลอยยินดี ย่อมเปล่งออกไปว่า แน่ะท่านผู้เจริญ ท่านจากเทวโลกนี้ไปแล้วจงถึงสุคติจงถึงความ เป็นสหายแห่งมนุษย์ทั้งหลายเถิด ท่านเป็นมนุษย์แล้ว จงได้ศรัทธาอย่างยิ่งใน พระสัทธรรม ศรัทธาของท่านนั้นพึงเป็นคุณชาติตั้งลงมั่น มีมูลเกิดแล้ว มั่นคงใน พระสัทธรรมที่พระตถาคตประกาศดีแล้ว อันใครๆ พึงนำไปมิได้ตลอดชีพ ท่านจงละกายทุจริตวจีทุจริต มโนทุจริต และ อย่ากระทำอกุศลกรรมอย่างอื่นที่ประกอบด้วยโทษกระทำกุศลด้วยกาย ด้วยวาจา ให้มาก กระทำกุศลด้วยใจหาประมาณ มิได้หาอุปธิมิได้ แต่นั้นท่านจงกระทำบุญ อันให้เกิดสมบัติ (อุปธิ) นั้นให้มากด้วยทาน แล้วยังสัตว์แม้เหล่าอื่นให้ตั้งอยู่ในพระสัทธรรม ในพรหมจรรย์ เมื่อใด เทวดาพึงรู้แจ้งซึ่งเทวดาผู้จะจุติ เมื่อนั้นย่อมพลอยยินดีด้วยความอนุเคราะห์นี้ว่า แน่ะเทวดา ท่านจงมา บ่อยๆ .
จบจวมานสูตรที่ ๔
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ข้อความโดยสรุป
จวมานสูตร * (ว่าด้วยเทวดาจุติ มีนิมิต ๕ ประการ)
-----------------------------------
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงว่า เมื่อใด เทวดา เป็นผู้จะต้องจุติ (เคลื่อน) จากความเป็นเทวดา เมื่อนั้น จะมีบุพนิมิต (เครื่องหมายที่ปรากฏก่อน) ๕ ประการ คือ ๑. ดอกไม้ที่ตนประดับ เหี่ยวแห้ง ๒. ผ้าที่ตนนุ่งห่ม มีความเศร้าหมอง ๓. เหงื่อไหลออกจากรักแร้ ๔. ผิวพรรณแห่งกาย เศร้าหมอง ๕. ไม่ยินดีในอาสนะอันเป็นทิพย์ของตน
ซึ่งหมายความว่าอีก ๗ วัน (โดยการนับวันในมนุษย์) เทวดาตนนั้นจะต้องเคลื่อนจากความเป็นเทวดา เมื่อเทวดาทั้งหลาย เห็นความเป็นไปอย่างนั้น ก็จะกล่าวอวยพรเทวดาตนนั้นว่า ขอให้ท่านได้เกิดเป็นมนุษย์ ขอให้เป็นผู้ได้ศรัทธา และมีศรัทธาที่มั่นคง อย่าได้กระทำทุจริตทั้งทางกาย วาจา และ ใจ ขอให้เป็นผู้ได้กระทำกุศลให้มากๆ เพื่อจะได้กลับมายังเทวโลกอีก. หมายเหตุ จวมานะ หมายถึง เคลื่อน หรือ จุติ นั่นเอง (รายละเอียดปรากฏอยู่ในอรรถกถา ขอเรียนเชิญผู้ศึกษาธรรมร่วมกัน (สหายธรรม) ทุกท่าน ศึกษาเพิ่มเติมจากอรรถกถา นะครับ ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...