วินัยเกี่ยวกับสามเณร

 
สามเณรนะครับ
วันที่  25 ม.ค. 2553
หมายเลข  15262
อ่าน  4,181

คือผมได้ไปเรียนที่โรงเรียนแล้วเขาบอกมาว่าสามเณรมีอาบัติปาราชิกนะครับ ผมจึงอยากให้ผู้ที่มีความรู้เชี่ยวชาญในด้านพระวินัยช่วยอนุเคราะห์บอกสอนเกี่ยวกับวินัยข้อนี้หนอ่ยนะครับ ยังไงก็พี่ๆ ๆ ที่เชี่ยวชาญก็ช่วยส่งข้อคาวมแล้ว่สงมาหนอ่ยนะครับ

kittishak@hotmail.com


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 26 ม.ค. 2553

ควรทราบว่าสามเณรมีสิกขาบท ๑๐ คือ ๑. เว้นจากการทำสัตว์ที่มีชีวิตให้ตกล่วงไป. ๒. เว้นจากถือเอาพัสดุอันเจ้าของมิได้ให้. ๓. เว้นจากกรรมอันเป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์. ๔. เว้นจากการกล่าวเท็จ. ๕. เว้นจากการดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัย อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท. ๖. เว้นจากบริโภคอาหารในเวลาวิกาล. ๗. เว้นจากฟ้อนรำ ขับร้อง ประโคมดนตรี และดูการเล่นที่เป็นข้าศึก. ๘ เว้นจากการทัดทรงตกแต่งด้วยดอกไม้ของหอม และเครื่องลูบไล้อันเป็นฐานแห่งการแต่งตัว. ๙. เว้นจากที่นั่งและที่นอนอันสูงและใหญ่. ๑๐. เว้นจากการรับทองและเงิน.เมื่อสามเณรก้าวล่วงสิกขาบท ข้อที่ ๑ ถึง ข้อที่ ๕ ข้อใดข้อหนึ่ง เมื่อนั้นย่อมขาดจากความเป็นสามเณรทันที (เหมือนปาราชิกของพระภิกษุ) ย่อมควรแก่การนาสนะคือขับไล่ออกจากวัด แต่เมื่อก้าวล่วงสิกขาบท ๕ ข้อหลัง ควรแก่การลงโทษบางอย่างตามสมควรแก่พระวินัย แต่สามเณรที่ขาดจากความเป็นบรรพชิตแล้ว เมื่อกลับตัวกลับใจ เห็นโทษโดยความเป็นโทษ พระภิกษุท่านให้สรณะและศีลใหม่ ความเป็นสามเณรก็ยังคงเหมือนเดิมเมื่ออายุครบก็บวชเป็นพระภิกษุได้ ซึ่งต่างจากพระที่ว่าเมื่อปาราชิกแล้ว จะกลับมาบวชเป็นพระภิกษุใหม่อีกไม่ได้ สรุปคือปาราชิกของสามเณรกับปาราชิกของพระภิกษุไม่เหมือนกัน อนึ่งสามเณรมีปาราชิก ๒ ประเภท คือ ประเภทแรกที่กล่าวไป กลับมาบวชใหม่ได้ แต่ปาราชิกอีกประเภทหนึ่งบวชใหม่อีกไม่ได้ เช่น สามเณรข่มขืนพระภิกษุณี หรือฆ่าพระอรหันต์เป็นต้น กลับมาบวชเป็นสามเณร หรือพระภิกษุอีกไม่ได้

ขอเชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่ เกี่ยวกับสามเณร

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 26 ม.ค. 2553

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ