เมื่อปัญญาเข้าใจแน่ชัดแล้วว่า ธรรมเกิดแล้วธาตุรู้จึงทำหน้าที่ต่อ?
ควรทราบว่ากิจของปัญญาคือ รู้ทั่ว รู้ตามความเป็นจริง โดยปกติปุถุชนผู้ทรามปัญญา ไม่รู้ตามความเป็นจริง เพราะไม่รู้ตามเป็นจริงจึงยึดมั่นถือมั่น ติดข้อง ในขันธ์ทั้งหลาย เมื่อยึดมั่น ติดข้อง ย่อมไม่หลุดพ้น ย่อมทำกรรมที่ไม่สมควร ที่ทำให้เกิดทุกข์ ย่อมเกิดในอบาย แต่ผู้มีปัญญาหาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะท่านรู้แจ้งตามความเป็นจริง จึงไม่ถือมั่น ไม่ติดข้อง เมื่อไม่ยึดถือมั่นในขันธ์ จึงหลุดพ้นจากทุกข์ ดังนั้นปัญญาขั้นสูงเป็นอย่างนี้ แต่ปัญญาขั้นต้นยังไม่สามารถทำให้หลุดพ้นได้ เมื่ออบรมเจริญจนปัญญาคมกล้าสูงยิ่งขึ้นไป ปัญญานั่นเองย่อมเป็นแสงสว่างนำทางที่ถูกต้อง ปัญญาย่อมทำหน้าที่ดับกิเลส ปัญญา ย่อมทำให้หลุดพ้นจากกองทุกข์ทั้งปวงได้..
เรียนคุณ รวส
ปัญญาก็จะทำหน้าที่ ทำสภาพรู้ให้เกิดขึ้น ในช่วงต่อๆ ไปครับ ไม่ขาดตอน ช่วงต่อไป ก็คือ ความจริงที่กำลังปรากฏในปัจจุบัน ณ ขณะนั้นๆ คือต้องเข้าใจก่อนว่า "ปัจจุบัน" คือทุกๆ เสี้ยววินาที ที่เคลื่อนที่อยู่ และเคลื่อนไปเรื่อยๆ ไม่มีวันหยุด
ขออนุโมทนา จิตผู้ใฝ่ธรรมะ
ขออนุโมทนาครับ
ส่วนตัวแล้ว ผมเคยบอกกับตัวเองว่า
จะขอมีธรรมเป็นเครื่องยึดเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง
เลยพยายามศึกษา พยายามพิจารณา และเริ่มต้นจากการนำธรรมที่ได้รับฟังมาพิจารณาอย่างรู้สติและรู้ตัว จึงได้รู้ว่าพระธรรมที่พระพุทธองค์ทรงสอนนั้น ลึกซึ้งเกินกว่าจะเรียนรู้เพียงแค่ตัวอักษร
ดีใจที่ได้มาเจอกับเวปนี้ครับ ผมจะพยายามขวนขวายเรียนรู้ให้มากครับ