จะอบรมเจริญปัญญาให้สติเกิดอย่างไร

 
เมตตา
วันที่  1 ก.พ. 2553
หมายเลข  15336
อ่าน  1,506

ทุกๆ คนที่ได้เกิดมาสะสมความไม่รู้มาเนิ่นนานในสังสารวัฏฏ์ ไม่เคยรู้ความจริงของสิ่งที่มีจริงทั้งหมด ซึ่งเป็นธรรมที่ปรากฏอยู่ในชีวิตประจำวัน ขณะเห็น ขณะได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส กระทบสัมผัส และคิดนึก ก็ไม่รู้ไม่เข้าใจว่าเป็นเพียงนามธรรม และรูปธรรมแต่ละชนิดแต่ละทาง ขณะเห็นเป็นเพียงนามธรรม เป็นจิตที่เกิดขึ้นทำกิจเพียงเห็นเท่านั้น ส่วนสิ่งที่ถูกจิตเห็นเป็นรูปธรรม เพราะความไม่รู้ไม่เคยฟังพระธรรมให้เข้าใจสิ่งต่างๆ ที่มีอยู่จริงทุกๆ ขณะที่เกิดขึ้นแล้วดับไปสืบต่อไม่เคยเว้น เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย ความรู้ความจริงจึงต้องเริ่มจากการฟังให้เข้าใจค่อยๆ ละความไม่รู้ทีละน้อย กว่าที่จะค่อยๆ เข้าใจว่าแต่ละทาง ไม่ว่าทางตา ทางหู...เป็นแต่เพียงรูปธรรม และนามธรรม ต้องเป็นผู้ที่อดทนฟังมากๆ พิจารณามากๆ จนกว่าจะค่อยๆ เข้าใจขึ้นๆ ค่อยๆ ละคลายความไม่รู้ทีละน้อย การฟังและพิจารณาสิ่งที่มีจริงที่ปรากฏในชีวิตประจำวันให้เข้าใจถึงตัวธรรมะบ่อยๆ จึงเป็นเหตุปัจจัยที่สำคัญ ให้สังขารขันธ์ปรุงแต่ง (ธรรมะปฏิบัติธรรมะ) ให้สติปัฏฐานเกิดรู้ตรงลักษณะนามธรรม หรือรูปธรรมตามความเป็นจริง ต้องมั่นคงในความเป็นอนัตตาของสภาพธรรม ไม่มีตัวตนที่ไปจัดการให้สภาพธรรมใดเกิดได้ แม้สติก็เป็นธรรมอย่างหนึ่งเป็นอนัตตา เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย ไม่ใช่มีแต่ความอยากให้สติเกิดหรือมีตัวเราที่จะไประลึก...โดยไม่ได้อบรมเหตุ

ขออนุโมทนาค่ะ....


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
ups
วันที่ 1 ก.พ. 2553

การให้ธรรมทานประเสริฐกว่าทานทั้งหลาย

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 1 ก.พ. 2553

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
akharat
วันที่ 2 ก.พ. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
วิริยะ
วันที่ 2 ก.พ. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Sam
วันที่ 3 ก.พ. 2553

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
นายเรืองศิลป์
วันที่ 4 ก.พ. 2553

"ขณะนี้เอง เป็นธรรมะ ต้องไม่เผลอค่ะ" (คำคมของท่านอาจารย์)

อนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Komsan
วันที่ 4 ก.พ. 2553

ขอขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
รากไม้
วันที่ 17 ก.พ. 2553

เมื่อลมพัดไปโดนใบไม้ ใบไม้ก็ต้องไหว ฉันใด ...สภาพธรรมทั้งสิ้น ก็เป็นอย่างนั้น ไม่มีอะไรไปควบคุมได้เลย เป็นกลไกที่วิจิตรซับซ้อนเป็นที่สุด มีพระพุทธองค์เท่านั้นที่ตรัสรู้ในธรรมนี้ได้ทุกสิ่งที่เราคิดไปเองว่า เราเป็นคนควบคุมได้นั้น ล้วนแต่เป็นโมหะทั้งสิ้นเลย

ขออนุโมทนา ทุกดวงจิตที่ใกล้ชิดพระธรรม

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
homenumber5
วันที่ 20 ก.พ. 2553

เรียนถามท่านเมตตาเจ้าของกระทู้ค่ะ

การฟังธรรม นี้ หากอธิบายตาม อายตนะ ทวาร จิต เจตสิก การฟังธรรมนี้ จะเข้าไปอยู่ในชวนจิตของเราอย่างงไรคะ ส่วนการฟังเพลง ฟังคำชื่นชม การบบรยายทางโลกอื่นๆ ใกระบวนการต่างกันไหมคะ

ขออนุโมทนา ช่วยตอบด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
เมตตา
วันที่ 20 ก.พ. 2553

การฟังธรรมเพื่อให้เข้าใจสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏว่าเป็นธรรม เมื่อมีการฟังธรรมบ่อยๆ ก็จะค่อยๆ ละความไม่รู้ เมื่อมีความเข้าใจธรรมมากขึ้นๆ สักวันหนึ่งย่อมเห็นธรรมตามความเป็นจริง...จิรกาลภาวนาค่ะ เมื่อยังไม่รู้สิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏขณะนี้ ว่าเป็นเพียงธรรม แล้วจะไปรู้อายตนะ จิต และเจตสิกได้อย่างไร

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
chatchai.k
วันที่ 18 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ