นิวรณ์และตัณหา
นิวรณ์ หมายถึง ธรรมที่กางกั้นกุศลจิต หรือธรรมที่ปิดกั้นปัญญาจักษุฯ มี ๖ คือ กามฉันทะ ๑ พยาปาทะ ๑ ถีนะมิทธะ ๑ อุทธัทจกุกกุจจะ ๑ วิจิกิจฉา ๑ อวิชชา ๑ ทั้งหมดเป็นนิวรณ์ ส่วนตัณหาก็เป็นหนึ่งในนิวรณ์เช่นกัน คือ กามฉันทะ ได้แก่ โลภะ ความติดข้องต้องการในกาม ติดข้องในภพ ติดข้องในฌานต่างๆ เป็นตัณหา เป็นเหตุให้ทุกข์เกิดขึ้น เป็นสมุทัย
เชิญคลิกอ่าน....
นิวรณ์หมายถึงเครื่องกั้นความดี เช่น เวลาที่เราจะฟังธรรมะ เกิดความง่วงนอน หรือขี้เกียจก็เป็นเครื่องกั้นกุศล ทำให้ปัญญาไม่เกิดในขณะนั้น แต่ตัณหาเป็นธรรมเครื่องเนิ่นช้า เช่น ศึกษาธรรมะแล้วอยากเข้าใจเร็วๆ เลยไปปฏิบัติผิด
กามฉันทะนิวรณ์ องค์ธรรม ได้แก่ โลภเจตสิก (ความหวัง ความต้องการ) พยาปาทะนิวรณ์ องค์ธรรม ได้แก่ โทสเจตสิก (ความประทุษร้าย) ถีนะมิทธะนิวรณ์ องค์ธรรม ได้แก่ ถีนะเจตสิก (ท้อถอย หดหู่) และ มิทธะเจตสิก (ง่วงเหงา ซบเซา) อุทธัจจกุกกุจจะนิวรณ์ องค์ธรรม ได้แก่ อุทธัจจะเจตสิก (ไม่สงบในอารมณ์) และ กุกกุจจะเจตสิก (เดือดร้อน รำคาญใจ) อวิชชานิวรณ์ องค์ธรรม ได้แก่ โมหเจตสิก (ความไม่รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง)
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุโมทนาในกุศลศรัทธาของทุกๆ ท่านด้วยครับ