ผลกรรมติดตัว

บุคคลที่ไม่เลี้ยง ละทิ้ง มารดาบิดาในยามที่ท่านแก่ชราภาพ ชื่อว่าเป็นเป็นการกระทำที่ผิดต่อท่านทั้งสอง ผิดต่อจาริตประเพณีอันดีงาม บกพร่องในหน้าที่ของลูกเป็นผู้มีใจหยาบกระด้าง ขาดความกตัญญูกตเวที ขาดความรับผิดชอบ เป็นอวมงคล ไม่มีความเจริญ เป็นผู้เสื่อม เป็นคนถ่อย ดังข้อความในวสลสูตรตอนหนึ่งว่า คนผู้สามารถ แต่ไม่เลี้ยงมารดา หรือบิดาผู้แก่เฒ่าผ่านวัยหนุ่มสาวไปแล้ว พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย.
และข้อความในปราภวสูตรตอนหนึ่งว่า คนใดสามารถ แต่ไม่เลี้ยงมารดาหรือ บิดาผู้แก่เฒ่า ผ่านวัยหนุ่มสาวไปแล้ว

ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม ..

ผู้ไม่บำรุงบิดา มารดา ย่อมเข้าถึงนรก ทรัพย์ย่อมฉิบหายบัณฑิตผู้รู้แจ้งพึงได้เพราะการบำรุงมารดา บิดา

เชิญคลิกอ่าน...

บัณฑิตผู้รู้แจ้งพึงได้เพราะการบำรุงมารดาบิดา [โสณนันทชาดก] เพราะการบำรุงมารดาและบิดานั่น แล บัณฑิตย่อมสรรเสริญบุคคลนั้นในโลก นี้ทีเดียว บุคคลนั้นละไปจากโลกนี้แล้ว ย่อมบันเทิงในสวรรค์.

เชิญคลิกอ่าน....การเลี้ยงมารดาบิดาเป็นความดี [มาตุโปสกสูตร] เชิญคลิกอ่าน....บิดามารดาเป็นบุคคลผู้ควรบูชา [มงคลสูตร] มังคลัตถทีปนีแปล เล่ม ๒ - หน้าที่ 260

[๓๓๔] การบำรุงมารดาบิดาตามที่กล่าวแล้ว พระผู้มีพระภาคตรัสว่า "เป็นมงคล" เพราะนำมาซึ่งอิฐผลทั้งหลาย มีความสรรเสริญเป็นต้นในโลกนี้ ด้วยประการนี้แล.

ขออนุโมทนาครับ

ขอบคุณ และขออนุโมทนา

ศีลมีทั้งวารีตและจารีต วาริตศีลคือข้อที่ควรงดเว้น เช่น งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ ลัก-ทรัพย์ เป็นต้น จารีตศีลคือข้อที่ควรประพฤติปฏิบัติ เช่น การเลี้ยงดู บิดามารดา ผู้ที่เป็นคฤหัสถ์ที่ดีจึงต้องประพฤติอันสมควรคือเลี้ยงดู บิดามารดาเพระท่านมีอุปการะคุณกับเรามาก ผู้ที่ไม่เลี้ยงดู บิดามารดาชื่อว่าล่วงธรรมขาวคือล่วงเลยกุศลธรรม ไปสู่ธรรมดำคือเป็นอกุศลธรรมเพราะไม่ประพฤติในสิ่งที่สมควรคือการเลี้ยงดูบิดา มารดา เมื่อเป็นอกุศลธรรมย่อมประสบกับวิบากที่ไม่ดี มีประการต่างๆ มากมาย ผู้รู้ติเตียนในโลกนี้ ย่อมเดือดร้อนใจในภายหลังและย่อมไม่ประสบสุขในโลกหน้าด้วยครับ พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๖ - หน้าที่ 164 ผู้ไม่เลี้ยงดูมารดาบิดา ย่อมเดือดร้อนในภายหลัง ว่า เราสามารถพอที่จะเลี้ยงดูมารดาและบิดาผู้แก่เฒ่า ชราได้ ก็ไม่ได้เลี้ยงดูท่าน.

ประโยค๔ - มังคลัตถทีปนีแปล เล่ม ๒ - หน้าที่ 256

"คนที่มารดาเลี้ยงมาแล้วโดยอยากอย่างนี้ ไม่

ปรนนิบัติมารดา, เขาประพฤติผิดในมารดา ย่อมเข้าถึงนรก. คนที่บิดาเลี้ยงมาแล้วโดย ยากอย่างนี้ ไม่ปรนนิบัติบิดา, เขาประพฤติ ผิดในบิดา ย่อมเข้าถึงนรก. ข้าพเจ้าได้ฟังมา ว่า 'แม้ทรัพย์ของผู้ปรารถนาทรัพย์, ย่อมฉิบ หาย' บ้าง, 'เขาไม่ปรนนิบัติมารดาย่อมประสพ ความลำบาก' บ้าง, '

เรามีชีวิตมีทุกสิ่งทุกอย่างได้ ก็เพราะพระคุณของมารดา บิดา เราต้องตอบแทนพระ

คุณของท่านให้มากๆ ไปตลอดชีวิต ส่วนคนที่ไม่เลี้ยงดูมารดา บิดา เป็นคนไม่ดีค่ะ

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระคุณของมารดาบิดา ที่ท่านได้กระทำต่อบุตรนั้น มีมากมายมหาศาล ยากที่จะพรรณนาให้หมดสิ้นได้ ท่านเป็นผู้ที่เอาใจใส่เลี้ยงดูบุตรให้เจริญเติบโตอย่างปลอดภัยโดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย ท่านเป็นผู้พร่ำสอนให้บุตรออกจากความชั่ว แล้วให้ตั้งอยู่ในความดี สอนให้รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ พร้อมทั้งให้ศึกษาศิลปะ-วิทยา เพื่อให้บุตรมีความรู้ติดตัวอันจะเป็นบ่อเกิดแห่งการงานประการต่างๆ ซึ่งจะทำให้ชีวิตของบุตรดำเนินไปด้วยความไม่เดือดร้อนในภายภาคหน้า เป็นต้น

เมื่อมารดาบิดาเป็นผู้ที่มีพระคุณต่อบุตร มากมายมหาศาลอย่างนี้ จึงควรอย่างยิ่งที่บุตรจะต้องมีความกตัญญูกตเวที คือ รู้ถึงพระคุณที่มารดาบิดากระทำแก่ตนแล้วกระทำตอบแทนท่าน ถ้าหากว่าบุตรคนใดไม่รู้คุณอีกทั้งไม่ทำการตอบแทนพระคุณของมารดาบิดา บุตรนั้นย่อมได้ชื่อว่าเป็นบุตรอกตัญญู (คนอกตัญญู ย่อมไม่พบหนทางแห่งความเจริญในชีวิต) และในพระไตรปิฎกแสดงไว้ว่า ไม้เท้าของคนแก่ยังดีกว่าลูกอกตัญญู กล่าวคือ ไม้เท้ามีประโยชน์หลายอย่าง เช่น ช่วยพยุงร่างกายให้ดำเนินไปได้ สามารถไล่สัตว์ร้ายได้ เวลาลงน้ำก็สามารถหยั่งได้ว่าลึกแค่ไหน (เวลามีสัมภาระสิ่งของมาก ก็สามารถใช้แทนไม้คานได้ สามารถสอยผลไม้อยู่บนต้นก็ได้ หรือ แม้กระทั่งผุมากๆ ยังทำเป็นฟืนก่อไฟหุงต้มอาหารได้อีก) ส่วนลูกอกตัญญูนั้น ใช้การไม่ได้ ไม่ดีเลย ...ขอเชิญคลิกอ่าน ...ไม้เท้าของคนแก่

สำหรับบุตรผู้ที่มีความกตัญญูกตเวที นั้น บัณฑิตทั้งหลายมีพระพุทธเจ้า เป็นต้นสรรเสริญแล้ว ดังนั้น บุตรธิดาทุกคน ควรอย่างยิ่งที่จะตั้งใจเลี้ยงดูมารดาบิดา กระทำในสิ่งที่ดีงาม ไม่ละเลยในสิ่งที่บุตรธิดาจะพึงกระทำตอบแทนท่านโดยประการทั้งปวง ครับ ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

ขออนุโมทนาค่ะ

มีญาติคนหนึ่งทะเลาะกับแม่อย่างหนักจนถึงขนาดด่าว่าแม่ตัวเองเปนสุนัข แม่ของเขาบอกว่าขอให้เวรกรรมตามทัน เขาบอกว่าถ้าเวรกรรมมีจริงถ้าลูกเขาทำกับเขาเหมือนที่เขาทำกับแม่เขาจะรับผลกรรมนั้นเอง....

แล้วถ้าอย่างนั้นลูกของเขาซึ่งเปนหลานดิฉัน

จะกลายเปนคนอกตัญญูอย่างนั้นเหรอเปล่า

แล้วผลกรรมจากการด่าพ่อแม่ตัวเองขนาดนี้จะมีอะไรบ้าง

จะลดทอนได้อย่างไร ไม่อยากให้เปนเวรกรรมติดต่อกันไป

ไม่จบไม่สิ้น

เรียนความเห็นที่ 10

กุศลก็ต้องเป็นกุศล อกุศลก็ต้องเป็นอกุศลครับ ไม่ว่าใครก็ตามหากทำอกุศลกรรมมี

การด่าว่าผู้มีพระคุณหรือด่าว่าคนอื่นก็ตามก็ต้องเป็นอกุศลกรรม เป็นบาป การประพฤติ

ไม่ดีต่อผู้มีพระคุณก็ต้องเป็นคนอกตัญญูไม่ว่าใครจะทำก็ตามและก็ต้องเป็นอกุศลกรรม

ส่วนผลของกรรมของผู้ที่ประพฤติไม่ดีกับผู้มีพระคุณ เช่น บิดามารดา ก็เป็นกรรมที่มี

กำลังย่อมประสบบาปเป็นอันมาก มีการเกิดในอบายภูมิ เช่น นรก เป็นต้น จนกว่ากรรม

นั้นจะหมดสิ้นก้พ้นจากรรมนั้นครับ โทษของปุถุชนจึงเป็นอย่างนี้คือสามารถทำบาปได้

ทุกอย่างเพราะฉะนั้ น การที่จะไมได้รับกรรมอีกต่อไปคือละเหตุด้วยการดับกิเลสครับ

ซึ่งการดับกิเลสก็ด้วยการอบรมปัญญาโดยการฟังพระธรรม ที่สำคัญเราไม่ควรลืมว่า

สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของๆ ตน เราไม่สามารถช่วยใครได้หรอกครับถ้าหากเขาไม่ช่วย

ตัวเอง ควรเริ่มที่ตัวเราเป็นสำคัญ ขออนุโมทนาครับ