ธาตุ 4

 
ตะวัน
วันที่  3 มี.ค. 2553
หมายเลข  15663
อ่าน  5,200

ผมขอรบกวนครับ

ผมทราบว่าร่างกายเรานี้เกิดจากธาตุสี่ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ แต่ผมไม่ทราบว่าส่วนใดของร่างกายเกิดจากธาตุใด ใคร่ขอความรู้ครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 4 มี.ค. 2553

ควรทราบว่าร่างกายของเรานี้ประกอบด้วยมหาภูตรูปและอุปาทายรูป มีรูปทั้งหมด ๒๘ รูป (โดยรวม) เกิดจากสมุฏฐาน ๔ คือ บางรูปเกิดจากกรรม บางรูปเกิดจากจิต บางรูปเกิดจากอุตุ บางรูปเกิดจากอาหารเป็นสมุฏฐาน การจำแนกรูปโดยนัยพระอภิธรรมทรงแสดงละเอียดมาก คือแม้กลุ่มเล็กๆ ก็มีธาตุทั้ง ๔ และรูปอื่นๆ รวมอยู่ด้วย แต่โดยนัยของพระสูตรบางสูตรท่านแสดงแบบหยาบๆ ให้คนมีปัญญาน้อยเข้าใจ ท่านก็แสดงโดยรวมๆ ว่า ส่วนที่แข็งๆ เช่น ผม ขน เล็บ เป็นต้น เป็นธาตุดิน ส่วนที่ไหลหรือเกาะกุม เช่น น้ำลาย น้ำมูก เป็นต้น เป็นธาตุน้ำ ...

รายละเอียดขอเชิญคลิกอ่านที่

ธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม ภายใน (มหาหัตถิปโทปมสูตร)

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 4 มี.ค. 2553

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 4 มี.ค. 2553

ไม่ว่าจะเป็นรูปภายในหรือรูปภายนอก ก็ไม่พ้นไปจากธาตุ ๔ คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม และรูปอื่นที่เกิดร่วมกับธาตู ๔ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
พุทธรักษา
วันที่ 5 มี.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
วิริยะ
วันที่ 5 มี.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
สามารถ
วันที่ 6 มี.ค. 2553

แม้พระพุทธองค์ ได้แสดงว่า ส่วนที่แข็งๆ เช่น ผม ขน เล็บ เป็นต้น เป็นธาตุดิน
ส่วนที่ไหลหรือเกาะกุม เช่น น้ำลาย น้ำมูก เป็นต้น เป็นธาตุน้ำ ...

ผม ขน เล็บ เหล่านั้นก็มีธาตุน้ำรวมอยู่ด้วย คือ การเกาะกุมของสสาร (ธาตุดิน) ถึงทำให้ธาตุดินสามารถรวมกันอยู่ได้ เป็น รูปร่าง รูปทรงต่างๆ ยาว งอ เส้น ได้ หากไม่มีธาตุน้ำการทรงอยู่เป็นรูปร่างของสิ่งใดๆ ก็มีไม่ได้ [อันที่จริงแล้วการที่สิ่งใดจะไม่มีรูปร่าง รูปทรง เพราะเหตุคือ สิ่งนั้นไม่มีการเกาะกุมยึดเหนี่ยวกันอยู่ (พันธะ) นั้น เป็นสิ่งที่จะเป็นไปไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ทุกสิ่ง ทุกรูป พระพุทธองค์ตรัสเรียก ย่อมมีธาตุน้ำอยู่ (มีการเกาะกุมกันอยู่ อาจจะกุมกันอย่างหนาแน่นเป็นก้อนหิน/เพชร หรือหละหลวมลงเป็นของเหลว หรือหละหลวมลงอีก เป็นควัน/ไอ ต่างๆ นาๆ ) ] แต่การรับรู้ธาตุน้ำ รูปร่าง รูปทรง หลุม บ่อ นูน ทรงต่างๆ นี้เป็นสิ่งที่รู้ได้ทางใจ รู้ได้ทางใจ ไม่มีใครเห็นรูปทรง ผม ขน เล็บ เหล่านั้นก็มีธาตุไฟรวมอยู่ด้วย คือ ลักษณะความร้อนหรือเย็น (ตรวจสอบได้ด้วยการใช้มือจับ) หากจะเรียกให้เข้ายุคสมัยนี้ก็คือ ผม ขน เล็บ เหล่านี้ย่อมเป็นสิ่งที่จะต้องมีอุณหภูมิอยู่ ไม่ว่าจะเอา ผม หรือ ขน เล็บ ตัดแล้วไปทิ้งที่ไหน ฝัง โยนลงแม่น้ำ เมื่อจับขึ้นมาอีกทีย่อมพบว่าจะมีธาตุที่พระพุทธองค์บัญญัติเรียกไว้ว่า เตโชธาตุ อยู่ อาจจะเย็นหรือร้อน ก็แล้วแต่เหตุปัจจัย หากหยิบเส้นผมออกจากข้าวในจานร้อนๆ อยู่ผมนั้นมีอุณหภูมิแน่นอนอันร้อนอยู่ หากหยิบจากแก้วน้ำแข็งเส้นผมนั้นย่อมมีลักษณะเย็นปรากฎแก่กายวิญญาณแน่นอน (อันที่จริงไม่มีใครจะสามารถแยกอุณหภูมิออกจากรูปใดได้เลย แม้จะพยายามอย่างไร ทุกสิ่งต้องมีอุณหภูมิ เป็นความจริงแน่นอน

ด้วยเหตุนี้พระผู้มีพระภาคจึงแสดงว่า เตโชธาตุ เป็นหนึ่งในสี่แห่งธาตุที่เป็นพื้นฐานในทุกรูป) ผม ขน เล็บ เหล่านั้นก็มีธาตุลมรวมอยู่ด้วย คือ ความตึง ความไหว ความยืด ความเหยี่ยว ความย่น ความตึง เรียกได้หลายชื่อ แต่เป็นลักษณะของธาตุลม กล่าวคือ ผม หรือขน หรือเล็บ เมื่อสัมผัสย่อมมีความยืดหยุ่นปรากฎ/ความดีดตัวได้/ความตึง/ความเต่งปรากฎ เล็บมื่อ ผม หรือนิ้วมือเมื่อมีการอาบน้ำนาน หากสัมผัสดูที่ปรายนิ้วจะพบว่ามีลักษณะเหยี่ยว/ย่นปรากฎ (รูปเปลี่ยนแปลงแม้ทางตายังปรากฎว่าเป็นลายรูปย่น) นี้จึงมีเคล็ดลับที่ว่า เราควรตัดเล็บหลังอาบน้ำหรือการซักผ้าเพราะจะตัดได้ง่ายด้วยเล็บจะมีความอ่อนตัวไม่เหนียวเปราะแตกเหมือนตอนที่ก่อนอาบน้ำ ลักษณะความยืดหยุ่นนี้มีอยู่รวมในทุกรูปแยกออกมาไม่ได้ ไม่มีใครสามารถแยกความเหนียว ความดัน ความหนาแน่น ความตึงออกจากรูปได้ ทุกรูปมีธาตุลมร่วม

ด้วยเหตุนี้ พระพุทธองค์ได้ตรัสรู้และแสดงว่า ทุกรูปมีธาตุลม เป็นลักษณะพื้นฐาน เป็นหนึ่งในสี่ธาตุใหญ่ที่มีอย่างมหา น้ำลาย น้ำมูก เหล่านี้เป็นธาตุน้ำ ก็มีธาตุดินรวมอยู่ด้วย คือ หากมีการลองเอามือไปแตะหรือจับจะพบว่าสามารถหยิบได้ มีสิ่งมีเนื่อที่มือสามารถประกบได้อยู่ นี้คือธาตุดิน มือที่แตะน้ำมูกอาจพบความนุ่มหรือแข็งหาเป็นมูกที่แห้ง ธาตุดินมีลักษณะเค่นแข็ง เป็นฐานเป็นที่ตั้งได้ (เป็นฐานเป็นที่ตั้งได้มากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่ปรุงแต่งหากเป็นธาตุดินที่มีอยู่ในน้ำก็ไม่สามารถสร้างบ้านเรื่อนได้ เพียงประคองสิ่งเบาเช่นเรือได้) ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีเนื้อมีสสารเป็นตัวเป็นหลักและจะปรากฎแก่กายวิญญาณว่าอ่อนหรือแข็งมากน้อยก็ตามปัจจัย พระพุทธองค์ตรัสว่า ธาตุดินเป็นหนึ่งในมหาภูตรูปสี่ น้ำลาย น้ำมูก เหล่านี้เป็นธาตุน้ำ ก็มีธาตุไฟรวมอยู่ด้วย คือ อุณหภูมิที่เย็นหรือร้อน

น้ำลาย น้ำมูก เหล่านี้เป็นธาตุน้ำ ก็มีธาตุลมรวมอยู่ด้วย คือ ความตึงผิวของของเหลวหรือความเหนียว ข้น เหมือนนมข้นหวานหรือน้ำเชื่อมปรากฎได้แก่กายวิญญาณไม่ใช่จักขุวิญญาณ (บุคคลมักบอกลักษณะของธาตุลมจากความจำในสิ่งที่ได้เห็น) ผมเห็นว่าที่พระพุทธองค์ได้แสดงว่า ส่วนที่แข็งๆ เช่น ผม ขน เล็บ เป็นต้น เป็นธาตุดิน ส่วนที่ไหลหรือเกาะกุม เช่น น้ำลาย น้ำมูก เป็นต้น เป็นธาตุน้ำ ... นั้น เพราะทำให้ง่ายต่อการพิจารณาของลักษณะของธาตุนั้น ด้วยความเด่นแห่งธาตุดินมีปรากฎชัดใน ผม ขน เล็บ เป็นต้น และความเด่นแห่งธาตุน้ำมีปรากฏให้พิจารณาได้ชัดได้ใน น้ำมูก น้ำลาย

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ตะวัน
วันที่ 8 มี.ค. 2553
ขอบพระคุณมากครับ ผมจะกลับเข้ามาอ่านข้อมูลและพยายามทำเข้าใจบ่อยๆ ครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
่jurairat91
วันที่ 24 มี.ค. 2564

พิจารณาธาตุถึงความไม่ใช่เราแต่เป็นสิ่งที่มีจริงคือจิต เจตสิกและรูป

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
nui_sudto55
วันที่ 12 ม.ค. 2567

สาธุครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ