อายุบวร ... ศรีลังกา 3 การเผยแพร่พระพุทธศาสนาที่เกาะลังกา
การเผยแพร่พระพุทธศาสนาที่เกาะลังกา
เมื่อทำสังคายนาครั้ง ๓ สำเร็จแล้ว ท่านพระโมคคลีบุตรติสสเถระคิดว่า ต่อไปพระ ศาสนาจะตั้งมั่นอยู่ที่ไหน ก็ทราบว่าจะตั้งมั่นในปัจจันตชนบททั้งหลาย จึงได้ส่งพระ ศาสนทูตไปประกาศพระศาสนา ๙ สาย (แต่ละแห่งมีพระภิกษุร่วมคณะพอครบสงฆ์ที่ จะให้อุปสมบท) คือ
๑. พระมัชฌันติกะ ไปกัสมีรคันธารรัฐ
๒. พระมหาเทวะ ไปมหิงสกมณฑล
๓. พระรักขิตะ ไปแคว้นวนวาสี
๔. พระโยนกธรรมรักขิต ไปอปรันตชนบท
๕. พระมหาธรรมรักขิต ไปมหารัฐ
๖. พระมหารักขิต ไปรัฐโยนก
๗. พระมัชฌิมะ ไปหิมวันต์ (ประเทศจีน)
๘. พระโสณะและอุตตระ ไปสุวรรณภูมิ (บางมติว่า สิยามรัฐ คือประเทศไทย)
๙. ท่านพระมหินทะ ไปตัมพปัณณิทวีป (เกาะลังกา)
ข้อมูลจาก “กาลานุกรม พระพุทธศาสนาในอารยธรรมโลก” ของพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต)
และสรุปข้อความจากอรรถกถา พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาคได้ว่า เมื่อพระมหินทรเถระได้รับมอบหมายจากพระอุปัชฌาย์ คือ ท่านพระโมคคลีบุตรติสส- เถระให้ไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาที่เกาะลังกาแล้ว ก็คิดว่าถึงเวลาสมควรที่จะเดิน ทางไปหรือไม่ ก็รู้ว่ายังไม่สมควร เพราะพระเจ้ามุฏสีวะทรงพระชราภาพมาก ไม่สามารถ ยกย่องเชิดชูพระศาสนาได้ ได้รอเวลาถึง ๗ เดือน จนพระเจ้ามุฏสีวะเสด็จสวรรคต พระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ พระราชโอรสขึ้นครองราชย์ต่อมา และพระเจ้าอโศกได้ทรง ส่งเครื่องบรรณาการเป็นจำนวนมากไปถวาย พร้อมกับธรรมบรรณาการมีข้อความว่า “หม่อมฉันได้ถึงพระพุทธเจ้า พระธรรมและพระสงฆ์ว่า เป็นสรณะที่พึ่งแล้วได้แสดงตน เป็นอุบาสกในพระศาสนาแห่งพระศากยบุตร ข้าแต่พระองค์ผู้สูงสุดแห่งนรชน ถึง พระองค์ท่านก็จงยังจิตให้เลื่อมใสในอุดมวัตถุทั้ง ๓ เหล่านี้เถิด ขอให้ทรงเข้าถึงรัตนะ ทั้ง ๓ นั้นว่าเป็นสรณะที่พึ่งด้วยพระศรัทธาเถิด”
และในปี พ.ศ. ๒๓๖ พระมหินทรเถระพร้อมกับพระอิฏฏิยเถระ พระอุตติยเถระ พระภัท ทสาสเถระ พระสัมพลเถระ สุมนสามเณร (โอรสของพระนางสังฆมิตตา) ซึ่งล้วนเป็น พระอรหันต์พร้อมด้วยปฏิสัมภิทา และภัณฑกอุบาสก ผู้ได้เห็นสัจจะแล้ว รวมเป็น ๗ ท่าน ได้เหาะไปทางอากาศ ไปที่มิสสกบรรพต หรือเจติยบรรพต แปลว่า ภูเขาแห่ง เจดีย์ อยู่ทางทิศตะวันออกของอนุราธปุระ ในปัจจุบันเรียกว่า มิหินตาเล หรือ มหินทต เล ซึ่งหมายถึงสถานที่ที่พระมหินทเถระพบกับพระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ จอมกษัตริย์ แห่งศรีลังกา
เมื่อท่านทั้งสองได้พบกัน พระมหินทรเถระได้ถวายพระพรว่า “บัดนี้ชมพูทวีปรุ่งเรือง ด้วยผ้ากาสาวพัสตร์ สะพัดอบอวลไปด้วยลมฤษี ในชมพูทวีปนั้นมีพระอรหันต์ พุทธ สาวกเป็นอันมาก ซึ่งเป็นมีผู้มีวิชชา ๓ และได้บรรลุฤทธิ์ เชี่ยวชาญทางเจโตปริยญาณ สิ้นอาสวะแล้ว”
เมื่อพระเถระทดสอบพระปัญญาของพระราชาแล้ว ทราบว่าทรงเป็นบัณฑิต จักทรง สามารถรู้ธรรมได้ จึงแสดงจูฬหัตถิปโทปมสูตร ในเวลาจบกถา พระราชาพร้อมด้วยข้า ราชบริพารประมาณสี่หมื่นดำรงอยู่ในไตรสรณคมน์
ขอนอบน้อมพระสังฆรัตนะทั้งหลาย มีพระมหาโมคคลีบุตรติสสเถระ เป็นต้น ที่ส่งพระ ศาสนทูตออกเผยแพร่พระพุทธศาสนา จนมาถึงพวกเราในปัจจุบันนี้ ไม่อย่างนั้นถ้า พระพุทธศาสนาถูกทำลายหมดในอินเดีย ก็คงไม่มีคำสอนมาถึงพวกเราอย่างแน่นอน